วานนี้ (9 ก.พ.2564) ตำรวจสถานีตำรวจภูธรหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ต้องแจกบัตรคิวแก่ประชาชนในพื้นที่ อ.หล่มสัก กว่า 600 คน ที่ทยอยเข้าให้ปากคำ หลังถูกนำบัตรประชาชนไปสวมสิทธิ์โครงการเราเที่ยวด้วยกัน
ผู้เสียหาย ระบุว่า ในช่วงก่อนปีใหม่ มีคนรู้จักกันมาขอถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน แต่ไม่ได้บอกว่าจะเอาไปทำอะไร หลังจากนั้นประมาณ 2-3 วัน จึงนำสำเนาบัตรมาคืนพร้อมให้เงิน 200 บาท กระทั่งทราบว่าถูกนำบัตรประชาชนไปสวมสิทธิ์โครงการเราเที่ยวด้วยกัน จึงรู้สึกตกใจมาก
ขณะที่บางคนถูกขอบัตรประชาชนไปโดยอ้างว่าจะนำไปลงทะเบียนแลกกับเงิน 400 บาท ภายหลังนำบัตรประชาชนมาคืน แต่มอบเงินให้เพียง 200 บาท เมื่อทราบว่าถูกนำชื่อไปสวมสิทธิ์ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถอนรายชื่อตนเองออกจากโครงการดังกล่าว เพราะเกรงว่าหากมีโครงการอื่นๆ อาจจะทำให้เสียสิทธิ์ได้
มีรายงานว่าที่ จ.เพชรบูรณ์ มีผู้ถูกนำบัตรประชาชนไปใช้ในโครงการเที่ยวด้วยกันกว่า 2,000 คน เฉพาะใน อ.หล่มสัก มีผู้ถูกสวมสิทธิ์กว่า 1,200 คน
สอบครูขอนแก่นลวงชาวบ้านสวมสิทธิ์โครงการรัฐ
ขณะที่ นายภูมิพัทธ เรืองแหล่ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่นเขต 1 ประชุมติดตามการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีครูผู้ช่วยโรงเรียนบ้านโสกแต้ อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีกระทำความผิดเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลตามโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และ โครงการคนละครึ่ง โดยมีหัวหน้าชุดสืบสวนข้อเท็จจริงเข้ารายงานความคืบหน้าผลการสืบสวน
นายภูมิพัทธ เปิดเผยว่า การสืบสวนข้อเท็จจริงมีความคืบหน้าไปแล้วมากถึงร้อยละ 80 ซึ่งการสืบสวนได้กำหนดการทำงานไว้ใน 7 วัน ซึ่งคาดว่า จะสามารถสรุปสำนวนการสืบสวนสอบสวนให้กับศึกษาธิการจังหวัดได้รับทราบ และ ดำเนินการตามขั้นตอนทางวินัยคือการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดตามระเบียบได้ภายใน 1-2 วันนี้
ขณะเดียวกันมีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหามาช่วยราชการที่ สพป.ขก.เขต 1 จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ซึ่งครูคนดังกล่าวได้มารายงานตัวและรับทราบถึงคำสั่งดังกล่าวแล้ว