วันนี้ (10 ก.พ.2564) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แถลงข่าวถึงกรณีปัญหาชาวบ้าน บ้านโป่งลึก-บางกลอย ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ว่า
ปัญหาโป่งลึก-บางกลอย เป็นปัญหาที่สังคมให้ความสำคัญ และกระทรวงฯ ของเราก็ให้ความสำคัญเช่นกัน
ตอนที่ตนมารับตำแหน่ง ที่บ้านโป่งลึก-บางกลอย มีประชากรอยู่ประมาณ 1,300 คน ทั้งหมด 180 กว่าครอบครัว จากการรายงานของเจ้าหน้าที่ทำให้ทราบว่า จากจำนวนพี่น้องกว่า 1,300 คน มีพี่น้องประชาชนอยู่จำนวนหนึ่ง ประมาณ 40 กว่าครอบครัว หรือประมาณ 80 กว่าคน ที่ยังไม่ลงตัวเกี่ยวกับเรื่องการเยียวยาจากทางราชการ และล่าสุดตามที่เป็นข่าวคือ มีการเดินทางกลับขึ้นไปที่บ้านใจแผ่นดิน
ตั้งกรรมการจากทุกภาคส่วนแก้ปัญหา
ต้องเรียนว่า ขณะนี้ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ฯ ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา มีรองปลัดกระทรวงฯ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ทั้งส่วนกลางจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ และส่วนภูมิภาค ของสายปกครอง สายทหาร รวมทั้งมีภาคประชาชน องค์กรต่างๆ เข้ามา
เพื่อมาหาวิธีว่า จะทำอย่างไรที่จะเยียวยาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ที่อยู่แล้วคับแค้นใจ ไม่มีที่ทำกินหรืออย่างไร ทำให้ต้องเดินทางกลับขึ้นไปบนใจแผ่นดิน
นายวราวุธกล่าวว่า การกลับขึ้นไปบนใจแผ่นดิน (ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี) บริเวณดังกล่าว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีความอุดมสมบูรณ์เพิ่มมากขึ้น มีความเปราะบางเกี่ยวกับทางด้านความมั่นคง
จึงเป็นสาเหตุที่ทำไม ในอดีตได้ดำเนินการ ให้พี่น้องประชาชนย้ายลงมาอยู่ในพื้นที่บ้านโป่งลึก และบ้านบางกลอย ที่ประมาณ 1,300 ไร่ ที่ทางราชการจัดไว้ เพื่อรองรับการกลับมาของพี่น้องประชาชนนั้น
ที่โป่งลึก-บางกลอย มีสาธารณูปโภคพร้อม
ปัจจุบันส่วนราชการหลายส่วน มูลนิธิหลายมูลนิธิ ได้เข้าไปไม่ว่า จะเป็นเรื่องโซล่าเซล กับการทำให้มีไฟฟ้า มีสาธารณูปโภคทั้งหลาย มีการทำแหล่งน้ำขนาดใหญ่ เพื่อให้พี่น้องประชาชนที่บ้านโป่งลึก-บางกลอย สามารถทำการเกษตร มีโรงเรียน พัฒนาความเป็นอยู่ให้พี่น้องชาวโป่งลึก-บางกลอย กระทั่งวันนี้บางครอบครัว มีรายได้เกือบแสนบาทต่อเดือน
ขอยืนยันความตั้งใจของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ และของรัฐบาลว่า เราดำเนินการมาเพื่อแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน เราไม่ต้องการมาสร้างปัญหา
แน่นอนพี่น้องประชาชน เวลามีปัญหา การที่เดินทางกลับขึ้นไปบนใจแผ่นดินนั้น เราเข้าใจถึงเหตุผล และความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนดี และก็เห็นใจ
แต่ขณะเดียวกัน การที่จะดูแลพื้นที่ดังกล่าว ให้มีความอุดมสมบูรณ์ การดูแลสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นชีวิตสัตว์ป่า และรวมไปถึงพืชพันธุ์ไม้ บริเวณใจแผ่นดินที่วันนี้มีความอุดมสมบูรณ์มากนั้น ก็เป็นหนึ่งในภาระกิจของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ
ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ที่ไม่มีที่ดินทำกิน หรือไม่สามารถทำกินได้ในบ้านโป่งลึก-บางกลอย นั้น เป็นปัญหาสำคัญ ที่ในวันนี้คณะกรรมการได้มีการหารือกันตลอด
เรามีพี่น้องทั้งโป่งลึก-บางกลอย รวมอยู่ในคณะกรรมการชุดนี้ด้วย ในการหาวิธีเยียวยา คนอีกประมาณ 6 เปอร์เซนต์ ต้องเรียนว่า
มาจนถึงวันนี้ จากจำนวนพี่น้องประชาชนประมาณ 1,300 คน มีอยู่ 50-70 คน ที่ยังไม่ได้รับการเยียวยาจนเป็นที่พอใจ จนเกิดเหตุการณ์ในวันนี้ขึ้นมา
รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ กล่าวว่า ต้องเรียนว่า 90 กว่าเปอร์เซนต์ที่ทางภาครัฐได้เยียวยาและดูแลไปนั้น ถือว่าเราได้เดินทางมาไกลมากแล้ว แต่ก็ยังมีอีกส่วนหนึ่ง ประมาณ 5-6 เปอร์เซนต์ จำนวน 87 คน ที่เรายังต้องมาหากลไก และมาหาวิธีที่จะเยียวยาพี่น้องประชาชนให้ได้รับความพึงพอใจเสียก่อน
ระหว่างทางมีเรื่องราวมากมาย มีคนบางกลุ่มบางคนมีวัตถุประสงค์ใด ผมก็ตอบไม่ได้ ทำเหมือนกับว่า ไม่อยากให้ปัญหานี้จบลง มีการไปพูดคุยกับพี่น้องประชาชนบ้าง มีการไปพูดคุยกับแกนนำอย่างนั้นอย่างนี้บ้าง ให้เหตุผลต่างๆ นานา
เคยมีคนมาเล่าให้ผมฟังว่า ถ้ากลับลงมาแล้วจะไม่มีสิทธิที่จะกลับขึ้นไปใหม่ได้ มีการให้ข้อมูลต่างๆ ที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง การดำเนินงานของคนกลุ่มเหล่านี้ ผมเองต้องเรียนว่า ไม่เข้าใจในสิ่งที่คนกลุ่มนี้มีวัตถุประสงค์ต้องการจะทำอย่างไร
แต่ต้องเรียนว่า แนวทางการทำงานของกระทรวงทรัพย์ฯ และอีกหลายหน่วยงานคือการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าไม่ใช้กฎหมายจะใช้วิธีแก้ปัญหาตรงนี้อย่างไร นายวราวุธกล่าวว่า ต้องเรียนว่า พื้นที่ที่ชาวบ้านกลับขึ้นไปบนใจแผ่นดินนั้น เป็นพื้นที่ที่ไม่มีสาธารณูปโภคอะไรเลย พี่น้องประชาชนเท่าที่เห็นมีทั้งเด็กเล็ก สุภาพสตรี
ผมคิดว่า พื้นที่ที่เรามีไว้ในปัจจุบัน ที่บ้านโป่งลึก-บางกลอย มีไฟฟ้า มีสาธารณูปโภคทุกอย่างครบครัน มีโรงเรียน มีพื้นที่ทำการเกษตร ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่น่าชักจูงให้พี่น้องประชาชนกลุ่มนี้กลับลงมา แล้วมาดูว่าเราได้ทำอะไรกันไปแล้ว
แน่นอนว่าการเยียวยา บางครั้งไม่สามารถทำได้ 100 เปอร์เซนต์ในทีเดียว ผมเองก็ต้องขออภัยที่ว่า ในอดีตที่ผ่านมา อาจจะเกิดเรื่องที่ทำให้ไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกัน อาจจะทำให้ไม่มั่นใจในสิ่งที่ทางรัฐ ได้เคยสัญญาเอาไว้ แต่นับตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.2562 มาจนถึงทุกวันนี้
งานหลายมิติของกระทรวงทรัพยากรธรรมขาติฯ นั้น ได้ทำให้พี่น้องประชาชนเห็แล้วว่า เรามีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะพื้นที่หลายๆ พื้นที่ โดยเฉพาะ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ที่มีปัญหากันมาหลายสิบปี มาวันนี้เราใช้นโยบาย คทช.ของนายกรัฐมนตรี แก้ปัญหาใกล้จะจบ จนปัญหาที่คอนสาร เราแก้ได้แล้ว
ปัญหาที่คาราคาซัง อย่างเช่น ที่ จ.ระนอง ที่ป่าชายเลน ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ที่พี่น้องประชาชนอาศัยอยู่ จนกลายเป็นเมืองไปแล้ว วันนี้เราแก้ปัญหาให้ ปลายเดือนนี้ทางกระทรวงฯ โดยผมจะไปส่งมอบพื้นที่ ให้กับพี่น้องประชาชน
ไม่ได้คิดดำเนินคดีกับชาวบ้าน
ปัญหาที่โป่งลึก-บางกลอย เราบอกได้เลยว่า เราตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหา การจะไปดำเนินคดีกับพี่น้องประชาชนนั้น ไม่ได้อยู่ในความคิดของพวกเราเลย การที่จพแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนได้ เราจะต้องใช้หลักนิติศาสตร์และหลักรัฐศาสตร์ร่วมกัน
เราไม่ได้ใช้มาตรการทางกฎหมายแต่เพียงอย่างเดียว ไม่ใช่อึกอักอะไรก็จะฟ้อง ขอมาร้อย อาจจะได้ 70-80 ก็ต้องยอมถ้อยทีถ้อยอาศัยกันบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะทำตามข้อเรียกร้องของชาวบ้านหรือไม่ ที่จะกลับไปอยู่ที่เดิม และจะได้ที่ดินทำกินด้วย ตามที่น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา เคยรับปากไว้ นายวราวุธกล่าวว่า นี่คือสิ่งที่บอกว่า ต้องยอมถอยกันคนละก้าว
ที่ผ่านมาทางรัฐได้เอง ได้จัดหาที่ ประมาณ 1,300 กว่าไร่ ให้กับพี่น้องประชาชนแล้ว ว่าเมื่อลงมาแล้วสามารถทำกินได้ สามารถทำการเกษตรได้ เราหาสาธารณูปโภคให้ หาแหล่งน้ำให้ จนทุกวันนี้ที่บ้านโป่งลึก-บางกลอย มีการปลูกข้าว ทุเรียน จนความเป็นอยู่ของเขาดีขึ้น
ถ้าพี่น้องประชาชนกลุ่มหนึ่งยืนกรานว่า ยังไงก็ไม่อยู่ ยังไงก็จะไป ผมขอเรียนว่า ต้องขอความเห็นใจว่า ถอยกันคนละก้าว ถ้าหากว่าพี่น้องประชาชนยังยืนยัน ไม่กี่สิบคน ยังไงก็จะกลับไป ถ้ารัฐยืนยันเหมือนกันว่าไม่ให้ไป เราต่างไม่ถอย ก็จะหาจุดลงตัวไม่ได้
ถ้าไม่ถอยกันทั้งสองฝ่ายก็จะไม่มีการเจรจาเกิดขึ้น รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐก็ต้องถอยด้วย ต้องถอยกันทั้งสองฝ่าย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะจำกัดคนบนป่าโป่งลึก-บางกลอย ได้อย่างไร เพราะทุกคนก็ต้องการที่ดินเพิ่ม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็จัดสรรให้แล้ว นายวราวุธกล่าวว่า ต้องย้อนกลับไปว่า ประเทศไทยมีที่ดิน 323 ล้านไร่ ไม่งอกไปกว่านี้ และไม่ลดไปกว่านี้แน่นอน สวนทางกันกับความเป็นจริง ที่มีประชากรเพิ่มขึ้นในประเทศไทยวันนี้ 67 ล้านคน
ถ้าทุกคนขอเท่าที่พอใจ จนวันหนึ่งไม่เหลือป่าในประเทศไทยแล้ว ไม่เหลือป่าแก่งกระจานแล้ว จะเป็นอย่างไรบ้าง แน่นอนการทำไร่ การดำรงชีพ ทุกคนจะต้องปรับตัว ภาครัฐเองก็จะต้องปรับตัว การที่จะอยู่ให้ได้ การดำรงชีวิตเข้าไปสู่อนาคตได้
ตั้งแต่ผมเดินขึ้นมาบนเวทีนี้ มาจนถึงนาทีนี้ ผมไม่เคยใช้คำว่า กลุ่มชาติพันธุ์ แม้แต่ครั้งเดียว แล้วก็ขอความกรุณาใครก็แล้วแต่ ที่จะมายื่นหนังสือกับผม ที่จะมาออกข่าวว่า รัฐมนตรีไม่ให้ความสนใจกับกลุ่มชาติพันธุ์ อย่างนั้นอย่างนี้ ขอความกรุณาว่า อย่ามาใช้คำว่ากลุ่มชาติพันธุ์กับผม
เพราะในความคิดของผมนั้น กลุ่มชาติพันธุ์ไม่ได้มีอะไรต่างจาก Citizen Of The World หรือว่าประชากรของโลกใบนี้ ทุกคนที่อยู่ในประเทศไทย เป็นคนไทย ทุกคนที่อยู่ในแผ่นดินไทยนั้น จะต้องได้รับสิทธิ จะต้องได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกไม่แพ้กัน ไม่ว่าคุณจะอยู่ในป่า ไม่ว่าคุณจะอยู่ในเมือง
มีจดหมายมาถึงผมบางฉบับ บอกว่าจะทำอย่างไรที่จะคืนความเป็นคนให้กับกลุ่มชาติพันธุ์ ผมอ่านแล้วต้องเรียนว่า ผมสะท้อนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่า
คนที่เขียนจดหมายฉบับนี้นี่แหละ ที่อ้างว่าจะเรียกร้องความเป็นคนให้กับกลุ่มชาติพันธุ์นั่นแหละ คุณกำลังทำลายความเป็นคน และพยายามเสี้ยมให้เกิดความแตกแยก ระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์กับคนทั่วไป
ดังนั้นการทำงานของผม ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามานั่งในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ผมไม่เคยสนใจคำว่า กลุ่มชาติพันธุ์ เพราะในสายตาของผม ในการทำงานของผม ไม่ว่าพี่น้องจะอยู่ที่ไหนในประเทศไทย ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ทุกๆ คน