วันนี้ (12 ก.พ.2564) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีนายอนุวัฒน์ ผลจะโป๊ะ หรือแหบ ผู้ต้องหาก่อเหตุข่มขืนและฆ่าเด็กหญิงวัย 9 ขวบ ที่ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา โดยระบุว่า ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์นี้ และทราบว่านายอนุวัฒน์ มีประวัติเคยต้องโทษในคดีอนาจารเด็กผู้ชาย ถูกจำคุกและเพิ่งพ้นโทษเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2563 ก่อนมาก่อเหตุ
ด้วยเหตุนี้ที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมศูนย์เฉพาะกิจเฝ้าระวังความปลอดภัยของประชาชน หรือ JSOC ขึ้นมาเพื่อเฝ้าระวังผู้พ้นโทษที่มีโอกาสทำผิดซ้ำ โดยแยกอดีตผู้ต้องขังที่พ้นโทษเป็น 2 กลุ่ม คือ วอชลิสต์ 1 กลุ่มผู้ต้องขังในคดีสะเทือนขวัญมี 7 ฐานความผิด ที่ได้รับการปล่อยตัวเพราะพ้นโทษตามกฎหมาย คือ
- ฆ่าข่มขืน
- ฆ่าข่มขืนเด็ก
- ฆาตกรต่อเนื่อง
- ฆาตกรโรคจิต
- สังหารหมู่
- ชิงทรัพย์โดยการปล้นฆ่า
- นักค้ายาเสพติดรายสำคัญ
และวอชลิสต์ 2 เป็นผู้ที่พ้นโทษแต่เป็นคดีที่น่าสนใจและอาจเป็นภัยต่อสังคม จึงต้องเฝ้าระวังพิเศษ โดยมีอาสาสมัครคุมประพฤติช่วยงานอีกทาง
ล่าสุด ทางศูนย์ JSOC ได้เพิ่มกลุ่ม วอชลิสต์ 3 ขึ้นมาอีก 1 กลุ่ม เพื่อติดตามผู้กระทำผิดที่อยู่ระหว่างการเฝ้าระวัง เป็นผู้กระทำผิดร้ายแรงทางสังคม อยู่ในกระบวนการของชั้นศาล ซึ่งอยู่ในระหว่างถูกดำเนินคดี เพื่อติดตามและรายงานสถานการณ์และผลการดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเตรียมความพร้อมขึ้นทะเบียนเป็นวอชลิสต์ 1 เช่น นายสมคิด พุ่มพวง ฆาตรกรต่อเนื่อง นายอภิชัย องค์วิศิษฐ์ หรือไอซ์หีบเหล็ก เป็นต้น ซึ่งกรณีของนายอนุวัฒน์ จะถูกขึ้นบัญชีไว้ในกลุ่มนี้ด้วย
จิตแพทย์เตือนว่าพวกก่อคดีข่มขืนเด็กมีปัญหาทางจิต เป็นเรื่องที่รักษายาก ในประเทศที่เจริญแล้วใช้วิธีควบคุมและติดตาม โดยติดกำไล EM ตลอดชีวิต เพื่อไม่ให้ไปทำร้ายใครอีก ส่วนในไทยอนาคตเราอาจจะต้องมีการแก้หรือเสนอกฎหมายที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย
ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ระบุว่า ศูนย์ JSOC อยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น ทำให้ทุกอย่างยังไม่เข้าที่ ทั้งเครื่องไม้เครื่องมือและบุคลากร รวมทั้งยังไม่มีกฎหมายรองรับการทำงานอย่างเต็มที่จึงทำให้เกิดเหตุผู้พ้นโทษก่อคดีซ้ำ แต่ในอนาคตกระทรวงยุติธรรมจะเสนอกฎหมายเพื่อสนับสนุนการทำงานให้มีประสิทธิภาพและเต็มที่มากขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตร.โคราชเร่งค้นหาชายฆ่าเด็กหญิงวัย 8 ขวบ
ตร.ไม่ทำแผนฯ คดีฆ่าข่มขืนเด็ก 8 ขวบ หวั่นถูกประชาทัณฑ์