วันนี้ (17 ก.พ.2564) เมื่อเวลา 17.45 น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลุกขึ้นชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ กรณีนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.เพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในประเด็นความล้มเหลว รวบอำนาจตั้งคนในศบค.และปล่อยให้มีการทุจริตในการลักลอบนำแรงงานรับส่วย โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ถูกกล่าวหาว่ารวบอำนาจแทรกแซงการทำงานของหน่วยงาน ซึ่ง รู้สึกแปลกใจที่คนตั้งประเด็นอาจไม่เข้าใจการบริหารงานในโครงสร้าง
กรณี COVID-19 ถ้าตั้งรับสถานการณ์ล่าช้า ยิ่งทำให้การรับรู้ เพราะมีสื่อโซเชียลที่สรุปข้อมูลออกมาไม่ได้สังเคราะห์ข้อมูล หลายเรื่องเกี่ยวกับหลายกระทรวง จากข้อกฎหมายที่แตกต่างกันทั้ง ตำรวจ ทหาร ตชด.ฝ่ายสาธารณสุข ฝ่ายปกครอง มหาดไทย และทุกฝ่ายมีอำนาจตามกฎหมาย แต่มีการเปิดให้เวทีกลางที่ทำให้ไปในแนวทางเดียวกัน และให้หน่วยงานระดับพื้นที่รับผิดชอบที่อาจจะมีสถานการณ์ความรุนแรงที่แตกต่างกัน ไม่มีใครอยากทำให้ทุกคนลำบาก เศรษฐกิจไม่ดี เจตนาคงไม่ใช่แบบนั้น
การแพร่เชื้อจากการเคลื่อนย้ายคน จากยานพาหนะ การท่องเที่ยว จะแก้ปัญหาได้ แต่ปล่อยอิสระในบางกรณี แต่สอดคล้องกับมาตรการหลักที่สังเคราะห์ออกมาศบค.ออกมา ซึ่งกว่าจะผ่านขึ้นมาก็มีการสังคราะห์มาจากจากจากชุดเล็ก ระดับรัฐมนตรี เข้าครม.มีการทำงานเป็นขั้นตอน เพราะมีการติดตามสถานการณ์ทุกวัน อยู่ที่การบริหาร อาจไม่ตรงใจ แต่ทุกคนตั้งใจทำงาน
อ่านข่าวเพิ่ม นายกรัฐมนตรี ยกกลอนเจอ "ศึกในไล่ข่มเหง"
ไม่รวบอำนาจ-ชี้ยุคก่อนเคยฆ่าไก่ 4-5 ล้านตัว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า บางข้อมูลก็ย้อนแย้ง การที่ใช้พ.รก.บางคน บางคนบอกเร็วไป บางคนบอกช้าไป และทำงานลำบาก แต่คงไม่สามารถบังคับใช้ทุกคนเห็นชอบ เพราะยืนยันไมได้รวบอำนาจ ใครจะด่า จะว่าจะดูถูกเหยียดหยาม ในสภา ก็นั่งฟัง ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นในสภา แต่ก็อดทนเพราะเป็นประชาธิปไตยที่ท่านต้องการ
อย่ามาว่าผมเอาแต่อำนาจ เพราะถ้าใช้แต่อำนาจ ผมคงไม่มานั่งแบบนี้ และผมก็ชอบทำงานแบบนี้ด้วย ให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็น
แต่ในช่วงสถานการณ์ที่ไม่สงบสุข ถ้าวันนั้นผ่านมาสงบมา 4-5ปี ไม่เกิดอะไรขึ้นมา ก็บอกไม่ได้ ทุกคนต้องไปทำความเข้าใจ มีความสามัคคี และเข้าใจสถานการณ์โดยไม่บิดเบือน ทุกอย่างต้องสร้างความเข้าใจ สร้างการรับรู้
ในอดีตเคยมีโรคซาร์ส โรคไข้หวัดนก แต่ก็การแก้ปัญหาคนละอย่าง เพราะโรคแพร่จากสัตว์สู่คน แต่จำได้ว่าสมัยก่อนก็มีการฆ่าไก่ 4-5 ล้านตัว ง่ายกว่านี้หรือไม่ แต่โรค COVID-19 เป็นโรคจากคนสู่คน มันฆ่าไม่ได้ เป็นรัฐบาลชุดไหนทำแล้วมาประโคมกันว่า เรียบร้อย ก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไร
3 ป.ไม่มีใครรับเงิน
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ช่วงแรกอาจมีความสับสนทั้งคนในระดับปฏิบัติ จึงต้องมีมาตรการกลางออกไป เมื่อมีการรวมศูนย์แล้วยืนยันว่าทุกหน่วยงานใช้กฎหมายของตัวเอง เป็นการบูรณาการ และขอให้เชื่อมั่นการทำงาน ผมไมได้เลือกฟังใคร แต่ทำงานในรูปแบบคณะกรรมการ เป็นอำนาจ ไมได้ผูกขาดอำนาจในฐานะประธาน ศบค. ซึ่งหลายประเทศก็ใช้แนวทางแบบนี้ มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ เพราะเห็นเราใช้แล้วได้ผล
การแก้ปัญหาระลอกใหม่ ผมยังยืนยันว่าการแก้ช่วงแรกทำได้ดี แม้จะมีปัญหาลักลอบเข้า-ออก ทุจริต และเรียกรับผลประโยชน์ แต่ผมยืนยันว่า 3 ป.ไม่มีใครรับเงิน เดี๋ยวไปพิสูจน์มา หาประจักษ์พยานมา แล้วไปสู้กับผมทางคดี ในนี้ท่านพูดได้ ผมก็พูดได้ แต่ผมก็ต้องรักษากิริยา ผมรู้ท่านอยากให้ผมโมโห แต่ยาก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประท้วงวุ่น! ปมจัดวัคซีน COVID-19
“สิระ” แจงปมยื่นทรัพย์สินเหรียญทองรุ่น "บิ๊กป้อม - ป่ารอยต่อ"