ผลผลิตมะเขือของเกษตรกรใน ต.ท่าด้วง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ถูกทิ้งไว้ตามสวน หลังประสบปัญหาไม่มีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อ เนื่องปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ความต้องการผักลดลงจนต้องประกาศให้คนมาเก็บไปขาย หรือ กินฟรี
เกษตรกรบางส่วนปลูกมะเขือรวม 10 ไร่ ได้ผลผลิตรุ่นละ 6-8 ตัน ขายได้กิโลกรัมละ 10-20 บาท หรือ เฉลี่ยตันละ 1-2 หมื่นบาท แต่ปัจจุบันไม่สามารถขายผลผลิตได้ เกษตรกรบางรายต้องจ้างคนงานมาเด็ดลูกมะเขือทิ้ง เพื่อรักษาต้นมะเขือไว้ หรือปล่อยให้ผลแก่คาต้น ซึ่งไม่นานต้นก็จะตาย และต้องไถทิ้ง
นายสุพล ศรีทับทิม พาณิชย์จังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังเร่งประสานไปยังแกนนำเกษตรกรเพื่อให้การช่วยเหลือ เบื้องต้นมีแนวคิดจะประสานให้หน่วยงานภาครัฐเข้าไปรับซื้อมะเขือเพื่อนำไปประกอบอาหาร อาทิ โรงพยาบาล ค่ายทหาร และเรือนจำ คาดว่าจะช่วยรับซื้อมะเขือได้ วันละ 500 กิโลกรัม
ส่วนที่บ้านโคกวังสาร ต.ไทรย้อย อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ผู้ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้เพื่อส่งออก ก็ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และการทำลายตลาดด้วยการนำมะม่วงอ่อนไปจำหน่าย ทำให้ราคาตกต่ำ เหลือ 3 กิโลกรัม 100 บาท จากเดิมเคยขายได้กิโลกรัมละ 80 ถึง 60 บาท
ล่าสุดต้องเร่งว่าจ้างคนงานเก็บมะม่วงส่งขายให้กับแม่ค้าจาก จ.เชียงใหม่แบบคละเหมา กิโลกรัมละ 28 บาท และ ประกาศขายผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อชดเชยรายได้
รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ชี้แจง ผ่าน Facebook Live ระบุว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ส่งพื้นติดตามสถานการณ์ และสำรวจเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ พบมี 41 ราย พื้นที่ปลูกกว่า 250 ไร่
โดยสาเหตุที่ราคามะเขือปีนี้ตกต่ำมาจาก ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 40 เนื่องจากสภาพอากาศ รวมทั้งการลดการซื้อและการบริโภคลดลง เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ในระยะสั้นได้ประสานกระทรวงพาณิชย์หาช่องทางการระบายสินค้าเกษตร ส่วนระยะยาว มีการส่งเสริมให้เกษตรกร
ปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชนิดอื่น
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุว่า ให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบูรณ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ อ.หนองไผ่ และ อ.หล่มสัก พบว่า ผลผลิตมะเขือเปราะจะออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2564 ประมาณร้อยละ 27 ของผลผลิตทั้งหมด
ทั้งนี้ กรมการค้าภายในได้ประสานห้างท้องถิ่น ในจ.เพชรบูรณ์ และ จ.พะเยา จัดพื้นที่ให้เกษตรกรนำผลผลิตมาวางจำหน่าย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย