กลุ่มเปราะบาง - ไม่มีสมาร์ตโฟน ลงทะเบียน "เราชนะ" ทะลุ 4 แสนคน

เศรษฐกิจ
18 ก.พ. 64
22:24
1,634
Logo Thai PBS
กลุ่มเปราะบาง - ไม่มีสมาร์ตโฟน ลงทะเบียน "เราชนะ" ทะลุ 4 แสนคน
โฆษกกระทรวงการคลัง เผยกลุ่มเปราะบาง - ไม่มีสมาร์ตโฟน ลงทะเบียนเราชนะผ่านธนาคารกรุงไทยและจุดบริการเคลื่อนที่แล้ว 455,354 คน พร้อมเปิดจุดลงทะเบียนเพิ่มเติมที่ธนาคารออมสินและ ธ.ก.ส. เตือนร้านค้า-ประชาชนใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผิดกฎหมาย - ระงับแอปฯ ทันที

วันนี้ (18 ก.พ.2564) น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการเข้าร่วมโครงการเราชนะของกลุ่มประชาชนที่อยู่ในฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ .com ว่ามีผู้ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิร่วมโครงการฯ ผ่านแถบโครงการ “เราชนะ” ในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” แล้ว จำนวน 10,544,909 คน (ข้อมูล ณ เวลา 17.00 น.)

อย่างไรก็ดี เนื่องจากมีผู้ประสงค์ยืนยันตัวตนเข้าโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” จำนวนมากจนส่งผลกระทบต่อระบบของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทย) ธนาคารกรุงไทยจึงปิดระบบดังกล่าวชั่วคราวจนถึงเวลา 20.00 น. โดยประชาชนสามารถทยอยยืนยันตัวตนได้ และจะได้รับวงเงินสิทธิภายหลังจากการยืนยันตัวตน โดยจะได้รับวงเงินสิทธิเพิ่มเป็นรายสัปดาห์ทุกวันพฤหัสบดีจนวงเงินสิทธิครบ 7,000 บาท โดยสามารถสะสมวงเงินสิทธิและใช้จ่ายได้จนถึงวันที่ 31 พ.ค.2564


นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการคลังได้เน้นย้ำถึงการเปิดจุดรับลงทะเบียน ณ สาขาหรือจุดบริการเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทย สำหรับประชาชนกลุ่มเปราะบางและไม่มีสมาร์ตโฟน รวมถึงผู้ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองไม่สำเร็จเนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้อง ข้อมูลล่าสุดมีประชาชนลงทะเบียนแล้ว 455,354 คน (ข้อมูล ณ เวลา 17.00น.) โดยในวันที่ 22 ก.พ.นี้เป็นต้นไป กระทรวงการคลังจะมีการเปิดจุดรับลงทะเบียนโครงการฯ ผ่านสาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารออมสินเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนด้วย

ขู่ร้าน - ปชช.จ่ายเงินผิดวัตถุประสงค์ ระงับใช้แอปฯ ทันที

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังพบว่า มีประชาชนหรือร้านค้าที่ใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ผิดวัตถุประสงค์ของโครงการฯ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระทรวงการคลังได้มีการประสานขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการติดตาม ตรวจสอบ และดำเนินการทางกฎหมายในประเด็นดังกล่าวแล้ว หากตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดเงื่อนไขจริง จะระงับการใช้แอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ของร้านค้าตลอดจนระงับการจ่ายเงินให้กับร้านค้าทันที รวมถึงระงับการใช้แอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ด้วย และจะดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

น.ส.กุลยา ขอความร่วมมือประชาชนรักษาสิทธิ์ของตนเอง และขอให้ร้านค้าและประชาชนปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการฯ สำหรับประชาชนที่พบเห็นพฤติกรรมที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการฯ สามารถแจ้งเบาะแสรวมถึงส่งหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำผิดเงื่อนไขโครงการฯ ถึงคณะทำงานพิจารณาตรวจสอบข้อมูลและเรื่องร้องเรียนสำหรับโครงการฯ ทางไปรษณีย์ได้ที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง