ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา ตลาดโลกมีความตื่นตัวเรื่องการปลดล็อกให้มีการนำพืชกัญชามาใช้อย่างถูกต้อง เพราะตอนนั้น แคนาดาได้ออกกฎหมายให้กัญชาถูกต้อง ทั้งสันทนาการและการแพทย์ ส่วนสหรัฐฯ เปิดตลาดให้กัญชาถูกกฎหมายเช่นกัน แต่จำกัดเพียงบางรัฐ
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMh1FlZfxFVwF0HeWZAUZnh82IKlN.png)
แต่หลังจากนั้น ราคาหุ้นกลุ่มกัญชาก็ตกลงมา ร้อยละ 60-70 แต่รายได้ยังคงมากกว่าเท่าตัวต่อปี ประธานบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะเวลธ์ ระบุว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกระบวนการต่างๆ เช่น การปลูก การให้ใบอนุญาต ตามกฎหมาย ยังทำได้ไม่รวดเร็วนัก จนกระทั่งปลายปี 2563 ที่สหรัฐฯ ได้ผู้นำคนใหม่จากพรรคเดโมแครต ซึ่งพรรคนี้ มีนโยบายสนับสนุนให้กัญชาถูกกฎหมาย บวกกับ มีการออกกฎหมายที่อนุญาตให้นำกัญชา ที่ไม่ใช่สารเสพติด ไปเป็นส่วนผสมผลิตภัณฑ์ต่างๆได้ ราคาหุ้นกลุ่มกัญชา จึงปรับสูงขึ้น แต่ยังไม่หวือหวาเท่าก่อนหน้านี้
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMh1FlZfxFVwF0HeUh2ETdYESKXk4.png)
ปัจจุบัน คาดการณ์ว่า ตลาดกัญชาของโลกมีขนาดใหญ่มาก หรือ มีมูลค่าราว 160,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทย 4,800,000 ล้านบาท แต่ตัวเลขนี้เป็นการซื้อขายที่ถูกกฎหมายจริงๆ เพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่ทำให้มูลค่าตลาดสูงมากขนาดนี้ เพราะกว่าร้อยละ 90 เป็นการลักลอบซื้อขายในตลาดมืด ราคาจึงสูง แต่ถ้าทำให้กัญชาถูกกฎหมายมากขึ้น มูลค่าอาจไม่สูงมากนัก
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMh1FlZfxFVwF0HeY6ljjwqaPmAYZ.png)
โดยสารสกัดจากกัญชา จะถูกขยายไปในเชิงพาณิชย์ หรือ นำไปเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยเฉพาะสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องหอม เครื่องดื่ม ขนม เป็นต้น จึงทำให้คาดการณ์ขนาดตลาดในอนาคตได้ยากพอสมควร แต่เติบโตขึ้นแน่ๆ
ส่วนการปลดล็อกพืชกัญชาให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ประธานบริหาร และ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะเวลธ์ ระบุว่า เห็นด้วย แต่ควรเพิ่มเรื่องของนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีด้วย เนื่องจาก เมล็ดพันธุ์ต่างประเทศเขา ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ ทุกบริษัทมีแหล่งเพาะปลูก แต่ก่อนนำไปใช้ จะต้องเข้าห้องปฏิบัติการเสมอ เป็นการใช้วิทยาศาสตร์
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMh1FlZfxFVwF0HeSYLhFNXTmBYVw.png)
ด้านบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า ปัจจุบัน ตลาดกัญชาถูกกฎหมายของไทย ยังมีมูลค่าน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นส่วนผสมอยู่ในตำรับยาไทย และแม้ว่าจะมีการปลดล็อกให้มีการใช้กัญชาอย่างถูกกฎหมาย ก็ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการทดลองทางการแพทย์เพื่อใช้กับผู้ป่วย และยังต้องได้รับการควบคุมดูแลโดยหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMh1FlZfxFVwF0HeN5LfsxwdeGoBK.png)
แต่หากมีการผลักดันและสนับสนุนให้เกิดการใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง และมีการจำหน่ายในรูปแบบเชิงพาณิชย์ ตลาดกัญชาเพื่อการแพทย์ของไทยน่าจะมีมูลค่าราว 3,600-7,200 ล้านบาทในปี 2564 ซึ่งยังมีขนาดที่เล็กมากหรือคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 0.02-0.04 ของจีดีพี
อย่างไรก็ตาม ในมิติเศรษฐศาสตร์และสังคม ยังเป็นความท้าทายที่ทุกภาคส่วนจะต้องให้ความสำคัญอย่างมาก เช่น กฎระเบียบข้อตกลงต่างๆ ที่เข้มงวด และชัดเจน ตั้งแต่เกษตรกรผู้ปลูกกัญชา ที่จะต้องคำนึงถึงสายพันธุ์ ความรู้ความเข้าใจในการปลูก ราคา ความสามารถในการแข่งขันกับกัญชาหรือผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ในกรณีที่มีการอนุญาตให้นำเข้าได้ หรือกลุ่มผู้ประกอบการ,นักลงทุน ที่จะต้องคำนึงถึงสิทธิบัตรกัญชา ความคุ้มค่าในการลงทุน เป็นต้น
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMh1FlZfxFVwF0HeVPqvxkNR4vSWS.png)
สิ่งที่นักวิเคราะห์เป็นห่วง คือ ถ้าหากควบคุมไม่ดี อาจกลายเป็นสร้างปัญหาแทน จากเดิมที่เป็นสารสกัดเพื่อความผ่อนคลาย แต่ถ้าไม่ควบคุมให้ดี แล้วกลายเป็นสารเสพติดขึ้นมา ก็จะอาจสร้างปัญหาสังคมแทน ดังนั้น การเคร่งครัดเรื่องข้อกฎหมาย ทั้งผู้ควบคุม และ ผู้ปฏิบัติ เป็นเรื่องสำคัญ