วันนี้ (28 ก.พ.64) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. เปิดเผยถึงกรณีการรวมตัวชุมนุมของกลุ่มราษฎร บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และเคลื่อนที่ไปยังกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ถนนวิภาวดีรังสิตในช่วงเย็นวันนี้ โดยได้เตรียมกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนทั้งชายและหญิงไว้ดูแลรักษาความปลอดภัยรวม 14 กองร้อย และจะปรับใช้ตามสถานการณ์
ขณะนี้ตำรวจได้เตรียมความพร้อมในการดูแลรักษาสถานที่ราชการที่กลุ่มผู้ชุมนุมระบุว่าจะเดินทางไปชุมนุมแล้ว ที่บริเวณช่องทางคู่ขนาน ถนนวิภาวดีรังสิต มีการตั้งแบริเออร์และตู้คอนเทนเนอร์ไว้ เพื่อลดการเผชิญหน้าระหว่างตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าการชุมนุมมีการใช้อาวุธ หรือวัตถุที่ทำให้เกิดเพลิงขว้างปาเข้ามาที่ตำรวจจนทำให้เกิดบาดเจ็บ จึงจำเป็นต้องมีเครื่องกีดขวางดังกล่าว
พล.ต.ต.ปิยะ ยังเน้นย้ำว่า ในกรุงเทพฯยังถือว่าเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด หากมีการชุมนุมหรือกิจกรรมที่เสี่ยต่อการแพร่กระจายโรคจะต้องถูกดำเนินคดี ตั้งแต่ผู้โพสต์ข้อความเชิญชวน รวมทั้งแกนนำจัดการชุมนุมและขณะนี้ได้ออกหมายเรียกแกนนำผู้ชุมนุม กรณีที่กลุ่มราษฎรชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแล้วเคลื่อนที่มาที่ศาลหลักเมืองจนเกิดการเผชิญหน้ากันจนมีผู้บาดเจ็บ รวมทั้งการรื้อถอนต้นไม้บริเวณเกาะกลางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ขณะนี้เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครมาแจ้งความร้องทุกข์เรียกร้องความเสียหายไว้กว่า 5 ล้านบาทแล้ว ซึ่งตำรวจได้ออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 8 คน และกำลังรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายเรียกเพิ่มเติม
พร้อมยืนยันว่า การชุมนุมในวันนี้ตำรวจจะไม่อนุญาตให้ผู้ชุมนุมฝ่าแนวกั้นของตำรวจเข้ามา และหากฝ่าฝืนก็จำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ส่วนการจราจรวันนี้ ตำรวจขอให้หลีกเลี่ยงเส้นทางตั้งแต่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถึงบริเวณหน้าสโมสรกองทัพบก ตั้งแต่เวลา 12.00 น. และคาดว่าช่วงเย็นวันนี้การจราจรจะเริ่มหนาแน่นหลังจากที่ประชาชนเดินทางกลับจากต่างจังหวัดในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา