วันนี้ (2 มี.ค.2564) จากกรณีแพทย์ทหารยศร้อยโทประพฤติผิดวินัยร้ายแรงหลอกลวงฉ้อโกงเงินจากการฉีดวัคซีนให้กำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพในเซาท์ซูดาน
ล่าสุด พล.ท.เชาวลิตร สังฆฤทธิ์ โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ระบุว่า ผู้กระทำผิดเป็นนายทหารสัญญาบัตรยศร้อยโทดำรงตำแหน่งนายแพทย์โรงพยาบาลสนามระดับ 1 กองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน และได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนพร้อมรายงานให้ผู้บังคับบัญชากองกำลังสหประชาชาติในเซาท์ซูดาน และกองทัพบกซึ่งเป็นหน่วยต้นสังกัดทราบ พร้อมทั้งให้กำลังพลจบภารกิจและส่งตัวกลับประเทศไทย เมื่อเดือน มี.ค.2563
ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลต่อภาพลักษณ์ของกองทัพไทยและประเทศไทยในภารกิจสหประชาชาติ ถือเป็นความผิดวินัยร้ายแรงรวมทั้งขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรม เนื่องจากผู้กระทำความผิดเป็นแพทย์
พล.ท.เชาวลิตร ระบุอีกว่า จากผลการสอบสวนพบว่า ทหารคนดังกล่าวมีพฤติกรรมหลอกลวงผู้บังคับบัญชาและกำลังพลให้ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่โดยอ้างว่า เป็นคำสั่งของนายแพทย์ประจำภารกิจ แต่กลับนำสารอื่นเข้าสู่ร่างกายกำลังพลแทนพร้อมทั้งได้เรียกเก็บเงินกำลังทุนเป็นค่าวัคซีนด้วย แสดงถึงเจตนาทุจริตหลอกลวงเข้าข่ายฉ้อโกงและประพฤติผิดวินัยอย่างร้ายแรง

จากการตรวจสอบของสหประชาชาติ พบว่า สารที่ฉีดเข้าสู่ร่างกายกำลังพลเป็นวัคซีนป้องกันบาดทะยักและเกลือแร่ ซึ่งคาดว่าสั่งซื้อมาจากประเทศอินเดีย โดยได้เก็บเงินกำลังพลคนละ 500 บาทรวมกว่า 100,000 บาท
ทั้งนี้ ระหว่างการสอบสวน นายทหารคนดังกล่าวไม่มาปฏิบัติหน้าที่ราชการและไม่สามารถติดต่อได้ หน่วยต้นสังกัดจึงได้ดำเนินการในฐานความผิดหนีราชการในเวลาประจำการและเสนอปลดออกจากราชการเรียบร้อยแล้ว พร้อมกันนี้ศาลทหารกรุงเทพได้ออกหมายจับในข้อหานี้ราชการ แต่ปัจจุบันยังไม่พบตัว
ยันยูเอ็นเข้าใจสถานการณ์ ไม่กระทบกำลังพลในภารกิจ
นอกจากนี้ ได้มีหนังสือถึงแพทยสภาให้พิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาพร้อมย้ำว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำความผิดส่วนบุคคล เป็นเรื่องที่ผิดวินัยทหารและกฎหมาย ถึงกองทัพไทยได้ดำเนินการตามกฎระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องทันทีเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้เกี่ยวข้องรวมถึงรักษามาตรฐานจริยธรรม

ยืนยันสหประชาชาติมีความเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและไม่ได้ส่งผลกระทบต่อกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพในนามของกองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจไทยเซาท์ซูดานซึ่งกำลังพลทุกนายยังคงทุ่มเทปฏิบัติงาน
กองทัพไทยก็ได้ดูแลสุขภาพของกำลังพลทุกคน ล่าสุด ได้ประสานเตรียมจัดส่งวัคซีนป้องกัน COVID-19 จากประเทศไทยไปให้กำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจในเซาท์ซูดาน และผู้บัญชาการทหารสูงสุดสั่งเพิ่มความเข้มงวดในการคัดเลือกกำลังพลไปปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพในต่างประเทศ แต่เนื่องจากกรณีของร้อยโทคนดังกล่าวเป็นเหตุสุดวิสัยเพราะถูกส่งไปผลัดเปลี่ยนกับแพทย์ทหารที่มีภารกิจกลับมาเรียนเฉพาะทางที่ประเทศไทยอย่างเร่งด่วน จึงไม่ได้ผ่านกระบวนการคัดเลือกที่เข้มงวด และสืบประวัติย้อนหลังเท่าที่ควร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"กองทัพ" สั่งแจงปม "หมอทหาร" ฉีดน้ำเปล่าอ้างวัคซีน COVID-19