แม้ราคาปาล์มลดลงกิโลกรัมละ 2 บาท หรือลดลงมาที่ 5 บาท 20 สตางค์ จาก 7 บาท 50 สตางค์ แต่ชาวสวนปาล์มตำบลทับปริก อำเภอเมืองกระบี่ ยังคงเก็บผลปาล์ฒส่งขายให้ลานเทชุมชน
ประธานชมรมคนปลูกปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย ระบุว่า โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเอกชนกดราคา รับซื้อผลผลิตไม่สอดคล้องกับราคาน้ำมันปาล์มดิบ หรือซีพีโอ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด
ขณะที่ นายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมัน จังหวัดตรัง ระบุว่าสาเหตุที่ราคาปาล์มตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเกษตรกรรีบตัดผลผลิตขาย โดยไม่ได้คำนึงถึงคุณภาพ ส่วนโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเอง ไม่ได้ปฏิบัติตามการรับรองคุณภาพ แย่งกันซื้อผลผลิต และสุดท้ายมาจับมือกันทุบราคาทำลายกลไกตลาด ทำให้ราคาสวนทางกับผลผลิตปาล์มน้ำมันในต่างประเทศ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สั่งการไปยัง พันตำรวจโทหม่อมหลวงกิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ให้เรียกประชุมด่วนและตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย กรณีพบพ่อค้ารายใหญ่ที่จังหวัดกระบี่ทุบราคาปาล์มน้ำมัน ขณะที่ผลผลิตปาล์มที่ออกสู่ตลาดยังมีปริมาณน้อยกว่าภาวะปกติ
พร้อมสั่งการพาณิชย์จังหวัดแหล่งผลิตทุกจังหวัดให้ติดตามสถานการณ์ หากพบผู้กระทำผิดจงใจทำให้ราคาต่ำเกินสมควร หรือทำให้เกิดความปั่นป่วนของราคา ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร หรือ สศก.รายงาน ราคาเฉลี่ยผลปาล์มสดตั้งแต่แต่ปี 2560 ถึง 2564 พบว่าราคาปาล์มต่ำสุดอยู่ที่ปี 2562 อยู่ที่กิโลกรัมละ 2 บาท 60 สตางค์ และราคาสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2564 อยู่ที่กิโลกรัมละเกือบ 8 บาท
แท็กที่เกี่ยวข้อง: