"กองทัพเมียนมา" ประกาศกฎอัยการศึกเพิ่มใน 2 เมืองใหญ่

ต่างประเทศ
15 มี.ค. 64
19:01
668
Logo Thai PBS
"กองทัพเมียนมา" ประกาศกฎอัยการศึกเพิ่มใน 2 เมืองใหญ่
ทางการเมียนมาสั่งตัดอินเทอร์เน็ต หลังกองทัพประกาศกฎอัยการศึกเพิ่มใน 2 เมืองใหญ่ ท่ามกลางการยกระดับการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงต่อเนื่อง ขณะที่สื่อเมียนมารายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงในย่างกุ้งวานนี้ 59 คน

วันนี้ (15 มี.ค.2564) ประชาชนยังคงออกมาเดินขบวนต่อต้านรัฐประหารในหลายเมืองทั่วประเทศ แม้จะถูกปราบอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานอ้างพยานและสื่อ ว่าเจ้าหน้าที่เปิดฉากยิงกลุ่มผู้ประท้วงในหลายเมืองและทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 6 คน


ด้านสถานีโทรทัศน์เอ็มอาร์ทีวีของทางการเมียนมาอ่านประกาศคำสั่งของรัฐบาลทหารเมียนมา ที่ให้มีการบังคับใช้กฎอัยการศึกเพิ่มอีก 4 พื้นที่ในนครย่างกุ้ง จากเดิมที่มีการประกาศใช้ไปแล้วใน 2 เขตเมื่อคืนนี้ โดยมีรายงานว่าทางการยังได้ประกาศใช้กฎอัยการศึกในเมืองมัณฑะเลย์เพิ่มอีก 5 เขต หลังจากก่อนหน้านี้ มีการประกาศใช้ใน 7 เขตเมื่อเดือนที่แล้ว


การประกาศใช้กฎอัยการศึกครอบคลุมหลายพื้นที่ของ 2 เมืองใหญ่ที่สุดในประเทศวันนี้ ชี้ให้เห็นว่า กองทัพอาจจะเข้ามามีบทบาทในการควบคุมสถานการณ์การประท้วงในประเทศด้วยตัวเองมากขึ้น จากเดิมที่ใช้กำลังตำรวจเป็นหลัก

ด้านหัวหน้าทีมทนายความของออง ซาน ซู จี เปิดเผยว่า การไต่สวนคดีถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 24 มี.ค.นี้ เนื่องจากศาลไม่สามารถจัดการไต่สวนผ่านระบบออนไลน์ได้ เพราะมีปัญหาเกี่ยวกับสัญญาณอินเทอร์เน็ต โดยสื่อรายงานว่ารัฐบาลมีคำสั่งให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมในเมียนมาระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ตผ่านสัญญาณโทรศัพท์มือถือทั้งหมดทั่วประเทศ


ทั้งนี้ สื่อเมียนมารายงานว่า เกิดเสียงปืนดังขึ้นต่อเนื่องจากการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ จนทำให้กลุ่มผู้ประท้วงแตกตื่นวิ่งหนีเอาชีวิตรอดและหลบเข้าไปตามตรอกซอกซอยในย่านไลง์ ตายาของย่างกุ้ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 30 คน  เมื่อวานนี้


ขณะที่สำนักข่าวเมียนมา นาว รายงานอ้างข้อมูลจากโรงพยาบาลในย่างกุ้ง 3 แห่ง ว่าเมื่อวานนี้มีผู้เสียชีวิตในย่างกุ้งเมืองเดียว ไม่น้อยกว่า 59 คน และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 129 คน ซึ่งแพทย์และเจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่ เชื่อว่า ตัวเลขจริงของผู้เสียชีวิตน่าจะมากกว่านี้ โดยผู้สื่อข่าวในพื้นที่บางคน รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตรวมทั่วประเทศเมื่อวานนี้อาจมีไม่ต่ำกว่า 89 คน

กองทัพส่งเรือรบขู่ชาวเมียนมา - จนท.แปรพักตร์

ขณะเดียวกัน พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดประเทศเมียนมา สั่งการให้กองทัพส่งเรือรบหลายลำไปประจำที่แม่น้ำสาละวิน ใกล้เมืองผาอ่าง รัฐกะเหรี่ยง และเมืองมะละแหม่ง รัฐมอญ ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยเชื่อว่าเพื่อข่มขู่ชาวเมียนมา และเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนที่แปรพักตร์ โดยรัฐกะเหรี่ยงและรัฐมอญ เป็นพื้นที่ใกล้ชายแดนด้านจังหวัดตาก มีกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธหลายกลุ่มอาศัยอยู่


พล.อ.มูตู เซโพ ประธานาธิบดีสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNU ติดตามสถานการณ์ชุมนุมประท้วงในเมียนมาอย่างใกล้ชิด ล่าสุดมีรายงานว่า ทหารและตำรวจเมียนมา ยิงผู้ชุมนุมเสียชีวิตในพื้นที่ของนครย่างกุ้ง และมีการเผาสถานที่สำคัญ รวมถึงโรงงานต่าง ๆ จำนวนมาก โดยผู้นำกองทัพพยายามสร้างสถานการณ์ เพื่อหาความชอบธรรมในการประกาศกฏอัยการศึก ที่จะใช้กำลังทหารปราบปรามผู้ชุมนุม


สำหรับวันนี้ในจังหวัดเมียวดี ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ไม่มีชาวบ้านออกไปชุมนุม แต่ในเขตอิทธิพลของกะเหรี่ยง KNU ยังมีการชุมนุมต่อเนื่อง

ไต้หวันแนะธุรกิจในเมียนมาติดธงป้องกันเหตุเข้าใจผิด

ส่วนทางการไต้หวัน ระบุว่า มีบริษัทไต้หวันเพียง 1 แห่งเท่านั้น ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรงเมื่อวานนี้ โดยมีชาวไต้หวัน 10 คน ติดอยู่ภายในโรงงาน ซึ่งอยู่ติดกับโรงงานของจีนที่ถูกเพลิงไหม้ในย่างกุ้ง แต่โชคดีที่ทั้งหมดปลอดภัย


นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า สำนักงานผู้แทนไต้หวันในเมียนมาได้ประสานกับบริษัทไต้หวันในพื้นที่แล้ว พร้อมทั้งแนะนำให้ภาคธุรกิจติดธงไต้หวันและป้ายข้อความภาษาเมียนมาเอาไว้ที่โรงงาน พร้อมทั้งอธิบายให้ชาวเมียนมาเข้าใจว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นบริษัทของไต้หวัน เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนและการเข้าใจผิด


คำแนะนำดังกล่าวมีขึ้น หลังจากเมื่อวานนี้กลุ่มผู้ประท้วงที่โกรธแค้นได้ออกมาเผาโรงงานของบริษัทสัญชาติจีน เนื่องจากมองว่า จีนเป็นผู้สนับสนุนกองทัพเมียนมาก่อรัฐประหาร

ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนออกมาแสดงความกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของชาวจีนในเมียนมา พร้อมทั้งเรียกร้องให้เมียนมายุติการใช้ความรุนแรง รวมทั้งปกป้องบริษัทสัญชาติจีนและชาวจีนในเมียนมา

ญี่ปุ่นเตรียมตอบโต้ทางเศรษฐกิจต่อเมียนมา

ด้านหัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังติดตามสถานการณ์ความคืบหน้าของเหตุรุนแรงในเมียนมา และเตรียมพิจารณามาตรการตอบโต้ ทั้งในเชิงนโยบายและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เกาหลีใต้ประกาศระงับความร่วมมือด้านกลาโหมและห้ามส่งออกอาวุธไปยังเมียนมาแล้ว

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง