กรณี “ชุดเหยี่ยวดง” กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เข้าตรวจยึด "ลิงก๊อตซิลล่า" ลิงแสม จากเจ้าของตลาดย่านมีนบุรี เลี้ยงดูไว้จนร่างกายอ้วนพี เพื่อนำไปดูแลที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา เนื่องจากกฎหมายห้ามครอบครอง
วันนี้ (5 เม.ย.2564) น.ส.มัชฌมณ แก้วพฤหัสชัย นายสัตวแพทย์ชำนาญการ หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงความคืบหน้าการดูแลลิงก๊อตซิลล่า ลิงแสมตัวผู้ น้ำหนักเกิน
ซึ่งลิงยังอยู่ในช่วงของการกักโรค ปรับโภชนาการและปรับพฤติกรรม พบว่าลิงค่อนข้างผ่อนคลาย และไว้ใจทีมดูแลมากขึ้น ยอมให้จับมือและเก็บตัวอย่างเลือด เพื่อตรวจสุขภาพทั่วไป และตรวจโรคในลิง
ลิงสดชื่นดี เริ่มกินน้ำและอาหาร คือ กล้วย ผักกาดขาว แตงกวา แครอท เมล็ดทานตะวัน ถั่วลิสงต้ม เม็ดฝักบัว ผักชีลาว และเสริมโปรตีนจากแมลง เพราะต้องปรับพฤติกรรมการกิน
สำหรับที่พักของลิงก๊อตซิลล่า อยู่ภายในกรงพักสัตว์ป่าชั่วคราว ภายในคลินิกสัตว์ป่า ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) เป็นห้องขนาด กว้าง 1.5 เมตร ยาว 2.2 เมตร สูง 2.4 เมตร
แต่เจ้าหน้าที่ได้ย้ายลิง ไปอยู่ห้องอื่น เพื่อทำความสะอาดห้องเดิม และนำตุ๊กตา ผ้าห่ม ที่อาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ออกไปทำความสะอาด และเหลือไว้เพียงอย่างละ 1 ชิ้น เพื่อให้การดูแลจัดการทำความสะอาดเป็นไปได้ง่ายและไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค
ไม่ให้เยี่ยมลิง เพราะต้องรอผลตรวจโรค
ลิงค่อนข้างผ่อนคลาย และไว้ใจทีมดูแล โดยเฉพาะสัตวบาลที่ให้อาหารและเข้าใจเรื่องจิตวิทยาสัตว์ลิง จึงยอมให้จับมือ และสามารถเก็บตัวอย่างเลือด เพื่อตรวจสุขภาพและตรวจโรคที่สำคัญในลิง โดยส่งไปตรวจที่สถาบัน และหน่วยงานที่มีมาตรฐาน
เนื่องจากอาการของผู้สื่อข่าว ที่ถูกลิงกัดอาการยังไม่ดีขึ้น และผลตรวจเลือดผู้ที่ถูกกัด ในห้องปฏิบัติการจากจุฬาฯ ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า เป็นไวรัสชนิดใด
แต่ที่ทราบแน่ๆ พบเชื้อแบคทีเรีย 2 ชนิด และอยู่ในระหว่างรอผลการตรวจน้ำลายและอุจจาระจากลิง จึงต้องอยู่ในระยะกักโรค งดเข้าเยี่ยม ก่อนที่ผลการตรวจจะออกมา ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการทางการแพทย์ ที่ต้องถือปฏิบัติ และเป็นขั้นตอนตามนโยบายของกรม โดยคณะทำงานพิจารณา ซึ่งถือเป็นความห่วงใยต่อผู้ใกล้ชิดทุกคนและลิง
รอผลเพาะเชื้อบาดแผลลิงกัด
สัตวแพทย์หญิง จุฑามาศ สุพะนาม หรือหมอเตย เจ้าของคลินิกหมอเตยจ.ลพบุรี กล่าวว่า แพทย์ได้ให้คำแนะนำทางโรงพยาบาลที่ดูแลผู้สื่อข่าวที่ถูกลิงก็อตซิลลากัดว่า ต้องขูดเอาเนื้อตรงจุดที่โดนเขี้ยวกัด และพยายามขูดลึกๆ ให้มีเนื้อสดๆ ติดไปด้วย เพื่อดูเชื้อก่อโรคบาดทะยัก และเชื้อพิษสุนัขบ้า
ส่วนไขสันหลังหมอเจาะเพื่อตรวจหาเชื้อพิษสุนัขบ้า เพราะไม่มีหลักฐานชัดเจนว่า ลิงก็อตซิล่าได้ฉีดวัคซีนป้องกันหรือไม่ ตอนนี้ต้องรออีก 3-4 วันในการเพาะเชื้อ
ส่วนกรณีบาดแผลที่ผู้สื่อข่าว พบว่ามีรอยฉีกขาดแบบปากฉลาม เพราะเขี้ยวลิงยาว มีการดึงกระชาก และเขี้ยวกดลึกถึงกระดูก หลังจากทำแผล และคิดว่า มีการล้างแผลสะอาดแล้ว จึงปิดบาดแผลไว้
กระทั่งเริ่มมีอาการปวด และชาไม่มีความรู้สึกที่นิ้ว จึงกลับมาหาหมอ แนะนำให้ตัดไหมออก เพราะแบคทีเรียกลุ่มนี้ไม่ต้องการออกซิเจน ทำให้เชื้อเจริญเติบโตได้ดี ตอนนี้หมอที่โรงพยาบาลตัดไหมออก และรักษาแผลเปิด ซึ่งแผลค่อนข้างเป็นแผลฉกรรจ์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อาการล่าสุดลิงแสม "ก๊อตซิลล่า" สดชื่นดี - กินผักน้ำหนักลด 4 ขีด
ส่งลิงแสม "ก๊อตซิล่า" ฟื้นฟูสุขภาพที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่ากระบกคู่