เมื่อวันที่ 21 เม.ย.2564 สื่อต่างประเทศ รายงานว่า "ไฟเซอร์" บริษัทผลิตยาของสหรัฐอเมริกา ออกมายืนยันเป็นครั้งแรกว่า วัคซีนป้องกัน COVID-19 ที่เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดได้เป็นของกลางในการลักลอบจำหน่ายที่เม็กซิโกและโปแลนด์เป็นวัคซีนปลอม
ในรายงานระบุว่า ชาวเม็กซิโกราว 80 คน ได้รับการฉีดวัคซีนปลอมในคลินิกแห่งหนึ่งด้วยราคาสูงถึง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 31,000 บาท ส่วนในโปแลนด์นั้น เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดวัคซีนปลอมได้จากตู้แช่เบียร์ในอะพาร์ตเม้นต์ของชายคนหนึ่ง โดยทางการโปแลนด์ยืนยันว่า ยังไม่มีประชาชนได้รับวัคซีนดังกล่าว จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า วัคซีนปลอมมีการดัดแปลงหมายเลขล็อตวัคซีนและวันหมดอายุขึ้นมา
นอกจากนี้ ในรายงานของ The Wall Street Journal ระบุว่า บริษัทไฟเซอร์ได้ทดสอบของกลางแล้วพบว่า ของเหลวในขวดวัคซีนปลอมที่ยึดได้ในโปแลนด์ เป็นสารเครื่องสำอางซึ่งคาดว่าอาจเป็นสารลดริ้วรอย ส่วนขวดที่ยึดได้จากเม็กซิโกมีการติดฉลากวัคซีนปลอม

ขณะที่โฆษกบริษัทไฟเซอร์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ABC News ระบุว่า บริษัทตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากความสะดวกสบายของอีคอมเมิร์ซทำให้เหล่ามิจฉาชีพใช้ช่องว่างทางออนไลน์ในการหลอกลวงประชาชนและปลอมแปลงวัคซีนอย่างผิดกฎหมาย ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในทั่วโลก
ด้านสำนักงานคณะกรรมการป้องกันความเสี่ยงด้านสุขภาพของเม็กซิโก (COFEPRIS) ได้ออกมาเตือนถึงการจำหน่ายวัคซีนปลอมว่าจะสร้างความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชากร พร้อมย้ำว่า การฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 ในเม็กซิโกไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และสำนักงานคณะกรรมการฯ ยังไม่ออกใบอนุญาตให้บริษัทหรือผู้ประกอบการรายใดนำเข้าหรือจำหน่ายวัคซีนป้องกัน COVID-19
อย่างไรก็ตาม การค้นพบวัคซีนปลอมครั้งนี้เป็นความพยายามล่าสุดระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและบริษัทผู้ผลิตยาอย่างไฟเซอร์ โมเดอร์นา และ จอห์นสัน & จอห์นสัน ในการยับยั้งการก่ออาชญากรรมเกี่ยวกับวัคซีนป้องกัน COVID-19 ที่กำลังเป็นที่ต้องการไปทั่วโลก จนกลายเป็นช่องทางใหม่สำหรับผู้ไม่หวังที่จะเข้ามาหาผลประโยชน์
ที่มา : The Wall Street Journal, ABC News, CNN และ The Straits Times
แท็กที่เกี่ยวข้อง: