วันนี้ (27 เม.ย.2564) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุม ครม. โดยระบุว่า รัฐบาลได้ติดต่อเพื่อเร่งจัดหาวัคซีนอย่างต่อเนื่อง โดยให้กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการต่างประเทศติดต่อรัฐบาลและบริษัทผู้ผลิตเพื่อให้ได้วัคซีนเพิ่มมากขึ้นตามเป้าหมาย 100 ล้านโดส ภายในปี 2564 ยืนยันไม่ได้ปิดกั้นภาคเอกชน แต่หลักการคือ รัฐบาลต้องรับผิดชอบทุกอย่าง
เราไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ประเทศเขา รัฐเขา บริษัทเขา วัคซีนก็เป็นสินค้าที่ถูกแย่งกันทุกภูมิภาค บางประเทศที่เขาเหลืออยู่ เราก็ต้องดูว่าจะทำอย่างไร ประสานรัฐบาลเขา ขอความร่วมมือได้ไหม
อย่างไรก็ตาม วันนี้ ครม.ได้ขยายเวลา และยกเว้นภาษีขาเข้าของที่นำเข้ามาใช้ในการรักษา วินิจฉัย หรือป้องกันโรค COVID-19 ออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี 2565 และช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับสิทธิประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลให้ครอบคลุมถึงผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน และค่าใช้จ่ายรถพยาบาล
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้หารือมาตรการเศรษฐกิจเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบตามงบประมาณที่มีอยู่ ขณะที่พรุ่งนี้รัฐบาลจะหารือร่วมกับภาคเอกชน เพื่อรับฟังแนวทางต่าง ๆ
ขอบคุณเอกชน - จิตอาสา เร่งช่วยผู้ป่วยตกค้าง
พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้สั่งการให้แก้ไขปัญหาผู้ป่วยตกค้างที่มีอยู่กว่า 1,400 คน ซึ่งวันนี้ได้เข้ารักษาในโรงพยาบาลแล้ว โดยใช้เวลา 3 วัน ทั้งนี้ ขอเป็นกำลังใจให้รองนายกรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขทุกคนด้วย เพราะถือเป็นด่านหน้าของรัฐบาล

ผมอยากขอความร่วมมือกลุ่มแพทย์ ให้เข้าใจการบริหารราชการ น่าจะช่วยส่งเสริมกัน มากกว่าขัดแย้ง ผมเคารพทุกท่าน ไม่อย่างนั้น จะถูกมองว่า เราบริหารไม่ได้หรืออย่างไร ยืนยันว่า เราบริหารได้ทุกอย่าง
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้ขอบคุณภาคเอกชนและจิตอาสาที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาสายด่วนและรถส่งผู้ป่วยไม่เพียงพอ พร้อมสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขประสานกระทรวงกลาโหมให้ช่วยเหลือในกรณีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอด้วย
นายกฯ ติดต่อผู้ว่าฯ เอง "ปรับผมได้ ไม่เป็นไร"
พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวถึงกรณีการเปรียบเทียบปรับ โดยระบุว่า ได้เห็นประเด็นดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กและรายงานข่าวโทรทัศน์จึงไม่สบายใจ และติดต่อไปทางผู้ว่าฯ กทม.พร้อมบอกว่า "ปรับผมก็ได้ ไม่เป็นไร ผมยอมรับว่าผมบกพร่อง" ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็มาเปรียบเทียบปรับตามขั้นตอน
ทั้งนี้ สิ่งสำคัญคือกฎหมายมีหลายบท ดังนั้น ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดต้องให้หลักการแก่ประชาชนมห้ชัดเจนว่าอะไรทำได้ หรือทำไม่ได้ หรือสิ่งใดทำแล้วจะไม่ถูกปรับ เช่น ในวัดหากอยู่มากกว่า 1 คนต้องสวมหน้ากาก อยู่ในสตูดิโอจัดรายการก็ต้องสวม เด็กเล็กต่ำกว่า 2 ขวบ ไม่ต้องสวม ขับรถหากนั่งหลายคนก็ต้องสวม "ผมสวมมาตลอดทาง เราก็ไม่อยากแพร่เชื้อให้คนอื่น"
ส่วนการมอบหมายงานให้รัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ทุกอย่างยังเป็นเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือฝ่ายค้านขอให้เอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลักในการแก้ไขปัญหา ย้ำว่า ไม่ได้ปิดกั้นรัฐมนตรีคนใด
วันนี้ไม่ใช่เวลาการเมือง เวลาของการทำงาน ไม่ได้มุ่งหมายว่าพรรคใครได้ประโยชน์ พรรคร่วมก็อยู่กับผม ผมก็รับผิดชอบอยู่แล้ว แม้บางพื้นที่เป็นของ สส.ฝ่ายค้าน ผมก็ดูแล เราไม่ได้ปิดกั้นรัฐมนตรีคนใด เอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก
แท็กที่เกี่ยวข้อง: