วันนี้ (3 พ.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวประจำวันของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้มีการนำคลิปกาให้สัมภาษณ์ของ นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล มาเปิดก่อนการแถลงข่าวความยาว 3 นาที
ครบ 1 ปีสถิติป่วย-ตายพุ่งสวนทาง
นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นครบรอบ 1 ปี โดยวันที่ 3 พ.ค.63 เป็นวันแรกที่เริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ แต่หนึ่งปีให้หลัง 3 พ.คในวันนี้ทุกอย่างเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไทยอยู่ในช่วงขาขึ้นของวิกฤต COVID-19 เรามีอัตราการเสียชีวิตเมื่อ 1 เดือนก่อนหน้านี้ ประมาณแค่ 0.12%
วันนี้ตัวเลข 0.36% ค่าตัวเลขต่างๆ ไม่ลดลง แต่กลับกันยังเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นหมายความว่าเรากำลังวิ่งเข้าไปถึงจุดวิกฤตที่แท้จริง
อ่านข่าวเพิ่ม นิวไฮ! ไทยป่วยโควิดตายวันเดียว 31 คน ยอดติดเชื้อพุ่ง 2,041 คน

คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราช กล่าวว่า อยากขอความร่วมมือคนไทยทุกคน ต้องช่วยกันแล้ว การใส่หน้ากากอยู่ตลอดเวลาไม่เว้นแม้กระทั่งอยู่บ้าน เพราะตัวเลขสัปดาห์นี้อัตราการแพร่ระบาดเกิดขึ้นในบ้าน ในครอบครัวกับเพื่อนฝูง ตอนนี้ถึงแม้อยู่บ้านเราไม่รู้หรอกว่าใครจะนำเชื้อเข้ามาหรือไม่ ต้องรักษาระยะห่าง หมั่นทำความสะอาดมือเป็นหน้าที่คนไทยทุกคนต้องช่วยกันแล้ว
นพ.ประสิทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการของผู้ประกอบการก็ขอให้ทำตามที่รัฐบาลกำหนดเอาไว้ มาตรการต่างๆ เหล่านั้นไม่ได้คิดเอง เป็นมาตรการมาจากข้อมูลต่างๆแล้ว มีกระบวนการในการทบทวนว่าอันไหนจำเป็น อันไหนไม่จำเป็น
ฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกัน-เสี่ยงแพ้ 1 ล้านต่อ 4 คน
นอกจากนี้ สำหรับประชาชนวัคซีน เป็นหนึ่งในเครื่องมือตัวหนึ่งที่จะทำให้เราปลอดภัย มีข่าวลือเยอะมากในเรื่องของวัคซีน แต่ให้ข้อมูลว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีน เมื่อเทียบกับตัวเลขอัตราการเสียชีวิตหรือความเสี่ยงจาก COVID-19 แตกต่างกันอย่างมากมาย
ฉีดวัคซีน 1 ล้านคน มีโอกาสที่มีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง มีตัวเลขประมาณ 4 คน ผลข้างเคียงหรือผลไม่พึงประสงค์ ต่างๆที่เกิดขึ้นเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นชั่วคราว แต่ติดเขื้อในโลกเกิน 100 คน เสียชีวิต 2.2 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่แตกต่างกันอย่างมากมายเหลือเกิน

การฉีดวัคซีนไม่ใช่เพื่อตัวท่านเองเพียงอย่างเดียว แต่เพื่อคนที่ท่านรัก เพราะท่านจะได้ไม่แพร่เชื้อให้คนเหล่านั้น ถ้าเราฉีดกันได้เยอะพอและทันเวลา เรากำลังจะช่วยประเทศ เพราะ COVID-19 จะอยู่ไม่ได้ถ้าคนในประเทศไทยมีภูมิคุ้มกันเยอะขึ้นในระดับหนึ่ง
ขอให้มั่นใจสิ่งเดียวที่มีอยู่ในสมองเราอย่างเดียวทำอย่างไรให้คนไทยเราปลอดภัยจาก COVID-19 ขอให้ช่วยกันอีกครั้งหนึ่ง ถ้าเราร่วมกันจริงๆเชื่อว่าเราจะผ่านวิกฤติอันนี้ไปได้ด้วย
อย่ารอจนวิกฤตรุนแรงจนแก้ไขไม่ได้ แล้วเราค่อยคิดออก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เจาะชุมชนแออัด 6 เขต กทม.ติดเชื้อเกิน 300 คน