วันนี้ (6 พ.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงพยาบาลวิภาวดีชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก Vibhavadi Hospital ว่าตามที่โรงพยาบาลวิภาวดี ได้ให้ความสำคัญกับการนำเข้าวัคซีนทางเลือก โดยหวังให้ประชาชนสามารถเข้าถึงวัคซีนได้โดยเร็วที่สุด เพื่อช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ และท่านได้ให้ความสนใจวัคซีนทางเลือกโมเดอร์นา (Moderna) กับโรงพยาบาลวิภาวดี
โดยที่การดำเนินการจัดซื้อวัคซีน ณ สถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้โรงพยาบาลวิภาวดีให้คำตอบที่ชัดเจนแก่ทุกท่านไม่ได้ ว่าจะได้รับวัคซีนในช่วงเวลาใด ซึ่งโรงพยาบาลถือว่าอาจเกิดความเสี่ยงแก่ท่าน และเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องแจ้งข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ต่อผู้ใช้บริการทุกท่านที่คาดหวังว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด โรงพยาบาลวิภาวดีจึงพิจารณาตัดสินใจยกเลิกการจัดซื้อวัคซีนดังกล่าว
โรงพยาบาลวิภาวดีจึงใคร่ขออภัยทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ และขอให้ท่านได้โปรดเข้าใจถึงความจริงใจและสุจริตใจของโรงพยาบาลที่มีต่อทุกท่าน ทั้งนี้ หากโรงพยาบาลวิภาวดีได้รับความชัดเจนในการที่จะทำให้ท่านได้เข้าถึงวัคซีนทางเลือก โรงพยาบาลจะขออนุญาตติดต่อท่านตามข้อมูลที่ให้ไว้ เพื่อสอบถามความต้องการต่อไป

เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กหลังการหารือร่วมกับผู้แทนบริษัทนำเข้าวัคซีน COVID-19 ของโมเดอร์นา โดยบริษัทซิลลิค ฟาร์มา จำกัด ว่า จากการหารือมีความเข้าใจกันอย่างดี พร้อมสนับสนุนการขึ้นทะเบียนวัคซีนโมเดอร์นา แต่ผู้ผลิตต้องส่งเอกสารตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำหนด
นอกจากนี้ยังระบุว่า โมเดอร์นาต้องขายผ่านรัฐบาล หรือหน่วยงานที่อยู่ภายใต้การกำกับของรัฐบาลเท่านั้น ไม่ขายให้เอกชนโดยตรง ซึ่งทุกบริษัทระบุเช่นนี้ ดังนั้นสธ.จึงให้คำยืนยันกับโมเดอร์นา ว่า เมื่อเอกชนไม่สามารถซื้อได้ เพราะติดเงื่อนไขจากทางบริษัทผู้ผลิต กระทรวงสาธารณสุขก็พร้อมให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) เป็นผู้นำเข้าวัคซีน แต่ภาคเอกชนต้องยืนยันยอดการซื้อมาให้ อภ. เพราะ อภ.ไม่สามารถซื้อมาสต็อกเพื่อรอให้เอกชนมาซื้อต่อได้อีกทอดหนึ่งได้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
โมเดอร์นา" จ่อขายวัคซีนให้เอกชน แต่ต้องซื้อผ่าน อภ.