วันนี้ (12 พ.ค.2564) ที่ประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ครั้งที่ 2 /2564 มีมติเห็นชอบเพิ่มการจัดหาจำนวนวัคซีน COVID-19 อีก 50 ล้านโดส เพื่อเตรียมไว้ฉีดให้กับประชากร ทำให้ไทยจะมีวัคซีน COVID-19 ในปี 2565 จำนวน 150 ล้านโดส และเร่งเจรจากับบริษัทผู้ผลิตวัคซีน เพื่อจัดหาวัคซีนให้ครอบคลุมการกลายพันธุ์ รวมทั้งปูพรมฉีดวัคซีนเข็มแรกให้เร็วที่สุด เพื่อลดความรุนแรงของโรค เริ่มได้ทันทีตามความพร้อมของแต่ละจังหวัด โดยการฉีดวัคซีนจะมี 3 รูปแบบ
- นัดหมายผ่าน แอปหรือไลน์ หมอพร้อม
- การนัดหมายเป็นกลุ่มก้อน ของทางหน่วยงาน เพื่อขอรับวัคซีน
- รับการฉีดแบบไม่นัดหมายล่วงหน้า หรือ วอร์กอิน
โดยให้จังหวัดทำหน้าที่บริหารจัดเอง กระทรวงสาธารณสุข มีหน้าที่กระจายวัคซีนตามคำขอเท่านั้น

จังหวัดไหนพร้อมเริ่มได้ทันที
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า การฉีดวัคซีนเข็มแรกแบบปูพรมไม่จำกัดแค่พื้นที่ระบาด แต่ให้ดำเนินการในทุกพื้นที่ เป็นหน้าที่ของแต่ละจังหวัดรับผิดชอบ ซึ่งจะระบุยอดเป้าหมายการฉีดแต่ละจังหวัด โดยตั้งเป้าการฉีดวัคซีนครอบคลุมร้อยละ 70 ของประชากร หากจังหวัดไหนพร้อมเริ่มฉีดได้ทันที
สำหรับการจัดฉีดวัคซีนแบบวอล์กอินจะช่วยลดอุปสรรคของคนที่เข้าไม่ถึงเทคโนโลยี ไม่มีแอปพลิเคชัน หรือดำเนินการผ่านหมอพร้อมไม่ได้ และคนที่ไม่มีประวัติเจ็บป่วยมาก่อน โดยแบ่งสัดส่วนของการฉีดกับการนัดผ่านหมอพร้อม และโรงพยาบาลนัดหมายเป็นสัดส่วน 30-50-20 ปรับเปลี่ยนได้ตามเหมาะสม
ฉีดวัคซีนก่อน ลงทะเบียนหลัง
นพ.โอภาส ย้ำว่า ทุกขั้นตอนการฉีดยังต้องมีมาตรฐาน สังเกตอาการ 30 นาที และแม้จะลดขั้นตอนการลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมในตอนแรก แต่หลังฉีดเสร็จยังต้องลงทะเบียนในแอป หรือ ไลน์หมอพร้อม เพื่อกรอกข้อมูลเก็บไว้ใช้ในการติดตามผลของวัคซีน นัดหมายฉีดเข็ม 2 และใช้ในการออกใบรับรองว่าได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ส่วนประชาชนที่ไม่มีแอปพลิเคชั่นหรือเข้าไลน์หมอพร้อมไม่ได้ เจ้าหน้าจะช่วยกรอกข้อมูลลงระบบต่อไป

นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคได้ร่วมกับสถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต จัดหาวัคซีนฉีดให้กับกลุ่มบุคคลที่มีความพิเศษและครอบครัว เพราะส่วนใหญ่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เมื่อติดเชื้อก็มีอาการรุนแรง โดยอาจเป็นการนัดหมายฉีดวัคซีนที่บ้านพัก เพื่อลดการเดินทาง ซึ่งเป็นอีกกลุ่มที่จะค่อย ๆ ทยอยดำเนินการไป
ยันวัคซีนทุกยี่ห้อปลอดภัย มีแพทย์ดูแลก่อน-หลังฉีด
นพ.โอภาส ย้ำว่า วัคซีนทุกยี่ห้อมีความปลอดภัยไม่อยากให้ประชาชนพิจารณานานว่าสมควรฉีดหรือไม่ เพราะวัคซีนทุกตัว มีความปลอดภัยข้อบ่งชี้ในการฉีดแต่ละยี่ห้อ แพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่า ใครมีความเหมาะสมรับวัคซีนยี่ห้อไหน ชนิดไหน เพราะบางคนอาจแพ้วัคซีนบางตัว แต่ทุก ๆ การฉีดอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
ที่ผ่านมาฉีดไปแล้ว 2 ล้านโดส ไม่พบคนเสียชีวิตหรือพิการ และขณะนี้กระจายวัคซีนไปแล้ว 2.5 ล้านโดส เหลืออีก 1 ล้านโดสที่อยู่ระหว่างการรอตรวจสอบเอกสารต้นทาง

ส่วนข้อกังวลผลกระทบจากการฉีด ยืนยันว่า มีคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญพิจารณา และทำงานเป็นอิสระ บางเคสที่สงสัยก็มีการใช้กระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ผ่าชันสูตรศพพิสูจน์
ส่วนที่กังวลหากวอล์กอินไปจะได้วัคซีนคนละตัวกับคนที่ลงทะเบียน ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ทุกการพิจารณาฉีดวัคซีนเป็นดุลยพินิจของแพทย์ ส่วนการจัดหาบุคลากรมาสนับสนุนในการฉีด อาจมีการระดมพยาบาลเกษียณอายุเข้ามาช่วยเหลือเพิ่ม ทำให้การฉีดวัคซีนได้รวดเร็วขึ้น