พื้นที่ริมทางเท้า ในซอยอารีย์ เขตพญาไท เป็นแหล่งทำกินของพ่อค้าแม่ค้าหลายคน บางคนขายมานับสิบปี นับตั้งแต่โควิด-19 ระบาด ทำให้เขารายได้ลดลงมากกว่าครึ่ง รายได้หายไปอย่างเห็นได้ชัด
แม้รัฐจะมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านโครงการต่างๆ ทั้ง เราชนะ ม.33 เรารักกัน รวมทั้ง คนละครึ่ง เฟส 3 ก็ไม่ได้ช่วยให้ยอดขายดีขึ้น พ่อค้าแม่ค้าจึงเห็นด้วยที่ กทม.จะอนุญาต และขยายสิทธิ์การทำการค้าหรือเป็นคราวละ 2 ปี
พื้นที่ทำมาหากิน เป็นอีกปัจจัยสำคัญของพ่อค้าแม่ค้า แต่หากการอนุญาตคราวละ 2 ปี ไม่ได้เป็นเพียงปัจจัยที่ช่วยให้ผู้ค้าอยู่รอดเท่านั้น รัฐควรสร้างความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจด้วยการปูพรมฉีดวัคซีน และให้ธุรกิจอื่นๆ กลับมาเปิดให้บริการตามปกติโดยเร็ว
คุณสุภัสสร ราชภักดี แม่ค้าขายพวงมาลัย บอกว่า เธอและครอบครัวใช้พื้นที่จุดนี้ สร้างรายได้มานานกว่า 40 ปี การผ่อนผัน ให้เธอได้รับสิทธิ์ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่หากรัฐจะขยายจุดผ่อนผันในกรุงเทพฯ ให้มากขึ้นก็อาจจะช่วยผู้ที่ตกงานได้
นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า คณะกรรมการรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของกรุงเทพมหานคร ได้แก้ไขปรับปรุงประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดพื้นที่ทำการค้าและการขายหรือจำหน่ายสินค้าในที่สาธารณะ โดยให้ กลุ่มผู้ค้า ได้รับสิทธิการทำค้าขายต่อเนื่อง จากเดิมต่อปีละครั้ง เป็น คราวละ 2 ปี
ก่อนหน้านี้ ครม. มีมติเห็นชอบ แนวทางปฏิรูปกฎหมายเกี่ยวกับการประกอบอาชีพในพื้นที่หรือทางสาธารณะในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร หวังกำหนดหลักเกณฑ์พิจารณากำหนดจุดผ่อนผันที่ชัดเจน จัดระเบียบการใช้ที่/ทางสาธารณะ พร้อมช่วยผู้มีรายได้น้อยประกอบอาชีพ
โดยระยะสั้น ให้จัดทำข้อตกลงระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการบริหารจัดการทางสาธารณะที่เกี่ยวข้องกับผู้ค้า
ส่วนในระยะยาว จะกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณากำหนดจุดผ่อนผันที่ชัดเจน ตาทสภาพพื้นที่มีความเหมาะสม
ส่วนในระยะยาว จะกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณากำหนดจุดผ่อนผันที่ชัดเจน โดยคำนึงถึงสภาพพื้นที่มีความเหมาะสม ความต้องการของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่ ส่งเสริมการท่องเที่ยวหรือพื้นที่สร้างเศรษฐกิจในการทำมาหากินของผู้ประกอบอาชีพรายย่อย คำนึงถึงมีอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของวิถีชุมชน และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว