ร้านอาหารเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563
การสำรวจล่าสุด พบว่า หากผู้ประกอบการไม่ได้รับการช่วยเหลือจะต้องปิดกิจการ ทั้งชั่วคราวและถาวร อีกประมาณ 50,000 แห่ง ในไตรมาส 3
เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.2564) นายกสมาคมภัตตาคารไทย เข้าพบ นายดนุชา เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อขอให้พิจารณามาตรการช่วยเหลือเร่งด่วน ด้วยการตั้งวงเงินเป็นโครงการพิเศษ จำนวน 30,000 ล้านบาท จาก ซอฟท์โลน 250,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ขอให้ตั้งคณะทำงานร่วมแก้ปัญหาธุรกิจร้านอาหาร พร้อมทั้งเสนอให้ใช้ศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงินเอสเอ็มอี (บสย.) เอฟ เอ เซ็นเตอร์ (F.A. Center) ภายใต้การกำกับของกระทรวงการคลัง เป็นที่ปรึกษาแก่ร้านอาหาร เพื่อจัดทำบัญชีให้ถูกต้อง และ มีโอกาสยกระดับเป็นนิติบุคคลต่อไป
ผู้ประกอบการรถโดยสารไม่ประจำทาง หรือ รถเช่าเหมา ก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน นายกสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย ไปยื่นหนังสือทั้ง 3 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง และ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อขอให้ช่วยเหลือแหล่งเงินทุนมาใช้ในการซ่อมบำรุงรถที่จอดทิ้งไว้มานานกว่า 1 ปีครึ่ง
สำหรับสถานการณ์ล่าสุด มีผู้ประกอบการรถเช่าเหมาต้องหยุดกิจการไปแล้ว มากกว่าร้อยละ 30 จึงต้องการแหล่งเงินทุนในการซ่อมบำรุงรถ จำนวน 25,000 คัน วงเงิน 7,500 ล้านบาท หรือ คันละ 300,000 บาท จากกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน
ขณะเดียวกัน ขอให้พิจารณายกเว้นการชำระภาษีประจำปี และขอเงินเยียวยาทะเบียนรถคันละ 5,000 บาท