วันนี้ (6 ก.ค.2564) กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอล เปิดเผยว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนไฟเซอร์ในการป้องกันการติดเชื้อแบบแสดงอาการจากการใช้งานจริง ลดลงเหลือร้อยละ 64 ในช่วงเวลาเดียวกับการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตาและการผ่อนปรนมาตรการเว้นระยะห่าง
ขณะที่ประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันอาการป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและการป่วยหนัก พบว่าลดลงเหลือร้อยละ 93 แต่ยังถือว่ายังมีประสิทธิภาพสูง
ด้านโฆษกไฟเซอร์ยังไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ พร้อมทั้งย้ำว่า แอนติบอดีที่เกิดจากวัคซีนสามารถรับมือกับสายพันธุ์ต่าง ๆ รวมถึงเดลตาได้
ทั้งนี้ อิสราเอลเริ่มผ่อนปรนมาตรการเว้นระยะห่าง หลังจากฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม ให้ประชากรประมาณร้อยละ 60 ทำให้ผู้ติดเชื้อรายวันลดลงจากกว่า 10,000 คนในเดือน ม.ค.และเหลือเพียงตัวเลขหลักเดียวเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
ขณะที่การแพร่กระจายของเชื้อสายพันธุ์เดลตาในวงกว้าง ส่งผลให้ทางการต้องกลับมาใช้มาตรการสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะอีกครั้ง เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ด้านผู้เชี่ยวชาญประจำสถาบันวิทยาศาสตร์ เสนอให้รัฐบาลอิสราเอลฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง และตรวจคัดกรองโรคชาวอิสราเอลที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด
ที่มา : Reuters, financial Times, The Times of Israel