วันนี้ (8 ก.ค.2564) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่าจากการประชุมร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ เกี่ยวกับการพิจารณาใช้สารเคมีเปลี่ยนสภาพ เพื่อป้องกันการลุกไหม้หรือปะทุขึ้นซ้ำอีก ในพื้นที่เกิดเหตุระเบิดและเพลิงไหม้โรงงานหมิงตี้ เคมีคอล จำกัด จ.สมุทรปราการ ได้ข้อสรุปจะใช้สารเคมี 2 ตัว คือ สารดับเพลิงโฟม F-500 encapsulator ฉีดรอบถังสารเคมี ใช้ป้องกันการลุกติดไฟของสารสไตรีนที่รั่วไหล ทำให้แปรสภาพเป็นสารไม่ติดไฟและไม่เกิดไอระเหย ซึ่งคุณสมบัติสามารถดับไฟได้ ควบคุมการรั่วไหล และการระเหยของก๊าซพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนด้านในถังเก็บสารสไตรีน จะฉีดด้วยสาร DEHA เพื่อยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาโพลีเมอไรเซชั่นของสาร โดยเฉพาะลดการเกิดกระบวนการโพลีเมอร์ที่จะคายความร้อน ด้วยการช่วยลดการขยายตัว ไม่เกิดแรงดัน และป้องกันการระเบิดของถังสารเคมี โดยให้บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เป็นผู้สนับสนุนและดำเนินการ

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวย้ำว่า ในรัศมี 1 กิโลเมตร ยังคงประกาศให้เป็นพื้นที่ควบคุม ยังไม่สามารถให้ประชาชนเข้ามาในพื้นที่ อาจเกิดกรณีเหตุฉุกเฉินได้ เพราะยังควบคุมไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ และสารเคมีต่าง ๆ ฟุ้งกระจายในพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
ภาพรวมคุณภาพอากาศไม่น่าเป็นห่วงเท่าคุณภาพน้ำ ที่ไหลลงแหล่งน้ำตามธรรมชาติ แม้ว่าจะยังไม่เกินมาตรฐานมากนักและค่อนข้างเจือจาง แต่จำเป็นต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษ จะประเมินความเสียหายที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากเหตุดังกล่าว เพื่อดำเนินการตามกฎหมายทางแพ่ง