ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ทำไม “กฤษณา” ไม้หอมยังมีราคาแพง และไม่เสื่อมความนิยม

สิ่งแวดล้อม
12:53
35,488
ทำไม “กฤษณา” ไม้หอมยังมีราคาแพง และไม่เสื่อมความนิยม
เหตุใดไม้หอม “กฤษณา” จึงเป็นที่ต้องการ เฉพาะแก่นกฤษณาราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 200,000 บาท ขณะที่การสำรวจปี 2550 พบไทยมีไม้กฤษณาตามป่าอนุรักษ์กว่า 397,000 ต้น

2 คดีลักลอบตัดไม้กฤษณาในป่าเขาใหญ่ ที่เกิดขึ้นในช่วงเดือน ก.ค.2564 นับเป็นการลักลอบตัดของป่าหวงห้ามที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อีกครั้ง

(อ่านข่าว : 2 วันติด! จับไทย-กัมพูชาลอบตัด "ไม้กฤษณา" บนเขาใหญ่)

ในแต่ละปีมีคนลักลอบเข้าไปขโมยไม้กฤษณาหลายราย และเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้หลายครั้ง

หลายคนอาจสงสัยว่า “ไม้กฤษณา” มีอะไรดี ทำไมจึงมีราคาแพง ให้คนเหล่านั้นยอมเสี่ยง

ไทยพีบีเอสออนไลน์ ชวนหาคำตอบถึงสาเหตุที่ “ไม้กฤษณา” เป็นที่ต้องการของขบวนการลักลอบตัดไม้ และสำรวจพื้นที่ไม้กฤษณาในประเทศ ที่อาจกลายเป็นจุดเสี่ยงให้ต้องเฝ้าระวัง

เหตุใด “ไม้กฤษณา” ในป่าธรรมชาติจึงเป็นที่ต้องการ

ข้อมูลจากกลุ่มงานพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี สำนักวิจัยและพัฒนาการป่าไม้ กรมป่าไม้ ระบุว่า สารกฤษณาที่แทรกอยู่ในเนื้อไม้กฤษณา เป็นน้ำมันหอมระเหย หรือยางชันที่มีราคาสูง เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ

มีการนำไปใช้ประโยชน์ในด้านการแพทย์ อุตสาหกรรมกลั่นน้ำหอม การแต่งกลิ่นยาสูบ และการทำผลิตภัณฑ์ป้องกันแมลง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีการลักลอบตัดต้นกฤษณาในป่าธรรมชาติ จนทำให้ไม้ชนิดนี้มีแนวโน้มใกล้จะสูญพันธุ์

สำหรับไม้กฤษณาที่พบในประเทศไทยมีอยู่ 5 ชนิด คือ กฤษณา (Aquilaria crassna) ไม้หอม (Aquilaria malaccensis) กำแยหรือกาแย (Aquilaria subintegra) ไม้จาแน (Aquilaria hirta Ridl.) และกฤษณาดอยหรือกฤษณาพม่า (Aquilaria rugosa)

พันธุ์ไม้กฤษณาที่สร้างสารกฤษณาได้มีเพียง 2 ชนิดแรกเท่านั้น

“กฤษณา” เป็นสารพวกน้ำมันระเหย หรือชัน หรือยาง (terpenoid) เกิดจากขบวนการรักษาบาดแผลของต้นกฤษณา โดยการสร้างสารกฤษณามาที่บริเวณบาดแผล ทำให้เนื้อไม้เปลี่ยนจากสีขาว เป็นสีน้ำตาลไปจนถึงดำ และมีกลิ่นหอม ขณะที่การเกิดกฤษณาในธรรมชาติต้องใช้ระยะเวลานาน

ราคา “แก่นกฤษณาสีดำ” สูงถึง กก.ละ 2 แสนบาท

ความต้องการกฤษณามีทั้งในและต่างประเทศ ในรูปของไม้แก่นกฤษณา ไม้สับ กากไม้ และน้ำหอม มีราคาแตกต่างกันในแต่ละส่วนและคุณภาพ เช่น

  • แก่นกฤษณาเกรด 1 สีดำ ราคาตั้งแต่กิโลกรัมละ 40,00-200,000 บาท ขึ้นอยู่กับแหล่งที่มา
  • เกรด 2 สีน้ำตาลเข้ม ราคากิโลกรัมละ 20,000-40,000 บาท
  • เกรด 3 สีน้ำตาล ราคากิโลกรัมละ 15,000-20,000 บาท
  • เกรด 4 สีน้ำตาลเป็นเส้นๆ ติดเนื้อไม้ ราคากิโลกรัมละ 5,000-15,000 บาท

แม้ว่าไม้กฤษณาจะไม่เป็นไม้หวงห้าม ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 แต่ชิ้นไม้กฤษณาและกฤษณาถูกกำหนดให้เป็นของป่าหวงห้ามตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ซึ่งจะเป็นของป่าหวงห้ามเฉพาะที่เกิดขึ้นในเขตป่าเท่านั้น แต่ในที่ดินที่ไม่ใช่ป่าก็จะไม่ใช่ของป่าหวงห้าม

ต้นไม้กฤษณาในที่ดิน “ป่า” ไม่ว่าจะเป็นไม้เดิม หรือไม้ที่ปลูกขึ้น จะต้องขออนุญาต “เก็บหาของป่าหวงห้าม” ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 29 และนำเคลื่อนที่ตามมาตรา 39 โดยมีใบเบิกทางของพนักงานเจ้าหน้าที่กำกับ

ต้นกฤษณาอยู่ที่ไหนบ้างในป่าอนุรักษ์ ?

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2550 กลุ่มงานสำรวจทรัพยากรป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทำการสำรวจพื้นที่ป่าประเทศไทย พบว่า มีต้นกฤษณา 397,411 ต้น กระจายอยู่ในป่าอนุรักษ์ ทั้งเขตอุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า รวม 24 แห่ง โดยพบมากที่สุดในแถบภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 อันดับแรก ดังนี้

  • อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เนื้อที่กว่า 1.3 ล้านไร่ พบไม้กฤษณา 68,655 ต้น
  • เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ เนื้อที่กว่า 9.8 แสนไร่ พบไม้กฤษณา 51,574 ต้น
  • อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จ.พิษณุโลก เนื้อที่กว่า 7.9 แสนไร่ พบไม้กฤษณา 50,799 ต้น
  • อุทยานแห่งชาติตาดหมอก จ.เพชรบูรณ์ เนื้อที่กว่า 1.7 แสนไร่ พบไม้กฤษณา 35,352 ต้น
  • อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เนื้อที่กว่า 2.9 แสนไร่ พบไม้กฤษณา 30,202 ต้น
  • อุทยานแห่งชาติปางสีดา จ.สระแก้ว เนื้อที่กว่า 5.3 แสนไร่ พบไม้กฤษณา 19,074 ต้น
  • อุทยานแห่งชาติดอยหลวง จ.เชียงราย เนื้อที่กว่า 7.5 แสนไร่ พบไม้กฤษณา 16,160 ต้น
  • อุทยานแห่งชาติขุนแจ จ.เชียงราย เนื้อที่กว่า 1.7 แสนไร่ พบไม้กฤษณา 15,650 ต้น
  • อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ เนื้อที่กว่า 6 แสนไร่ พบไม้กฤษณา 15,364 ต้น
  • เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาช้าง จ.พะเยา เนื้อที่กว่า 3.6 แสนไร่ พบไม้กฤษณา 11,729 ต้น

ป่าที่พบต้นกฤษณา 24 แห่งทั่วประเทศ จึงเป็นพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังขบวนการลักลอบตัดไม้ผิดกฎหมาย เพราะไม้ชนิดนี้เป็นที่ต้องการของตลาด เป็นไม้หายากและมีราคาแพง