วันนี้ (29 ต.ค.2568) งานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2568 นี้ ถูกกำหนดจัดขึ้นในช่วงวันที่ 4-6 พ.ย.2568 เดิมทีการตกแต่งเมืองในช่วงเทศกาลนี้ได้เตรียมการภายใต้แนวคิด "ทิพยรัศมีเวียงพิงค์ สู่ดินแดนวิจิตรแห่งล้านนา" ทว่า หลังมีประกาศสำนักพระราชวังเรื่อง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต
เทศบาลนครเชียงใหม่ จึงได้ประกาศปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานเป็นการจัดงานภายใต้แนวคิดใหม่ คือ "สายธารแห่งพระเมตตา ไหว้สาพระพันปีหลวง ทวยราษฎร์ทั้งปวงล้วนสดุดี ภักดีสถิตในใจนิรันดร์" เพื่อถวายพระเกียรติและแสดงความอาลัย การปรับเปลี่ยนนี้รวมถึงการงดกิจกรรมรื่นเริงออกไป เช่น การประกวดเทพี เทพบุตรยี่เป็ง และกิจกรรมแสงสีเสียง ขณะที่กิจกรรมทางวัฒนธรรมและพิธีการสำคัญยังคงจัดอยู่
เมื่อวันที่ 27 ต.ค.2568 นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ พร้อมทีมงาน ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามการประดับตกแต่งเมือง การดำเนินการเพื่อแสดงความอาลัยที่เกิดขึ้นคือการ "ใช้สีพ่นทับ" ดอกไม้ประดับไฟที่เคยมีสีสันสดใส ให้เปลี่ยนเป็นสีดำทั้งหมด พร้อมทั้งมีการนำตัวการ์ตูนประดับไฟสีสันสดใสที่เคยตกแต่งไว้ออกไป บริเวณที่เป็นประเด็นวิจารณ์อย่างหนักคือบริเวณ "เกาะกลางถนนเชิงสะพานนวรัฐ" หน้าจวนผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดที่ใช้ตกแต่งเป็นดอกไม้และผีเสื้อหลากสี
ภาพ : Panupong Boonruang
ภาพ : Panupong Boonruang
กระแสสังคมถาโถม-คำชี้แจงจากผู้บริหาร
หลังจากที่เทศบาลนครเชียงใหม่ได้โพสต์ภาพการลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินการดังกล่าว ในค่ำคืนของวันที่ 27 ต.ค. ชาวเชียงใหม่และผู้ใช้โซเชียลมีเดีย ต่างพากันเข้าไปแสดงความคิดเห็นและตำหนิท้วงติงเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่มองว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่ไม่เหมาะสมและขาดความคิดสร้างสรรค์
มีการวิจารณ์ว่า "สีดำไม่ใช่ทุกสิ่ง" และมีการเรียกร้องให้ผู้บริหารไปปรึกษาผู้มีความคิดสร้างสรรค์ หรือปรึกษาบุคลากรคนศิลปะในล้านนา หรือที่เรียกกันว่า "สล่า"
นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ได้ออกมาเปิดเผยและชี้แจงว่า การตกแต่งบริเวณเชิงสะพานนวรัฐที่ถูกพ่นสีดำนั้น "ยังปรับปรุงไม่เสร็จ" และชี้แจงว่าบริเวณดังกล่าวซึ่งเป็นเส้นทางเคลื่อนขบวนกระทงใหญ่ จะมีการประดับ "ดอกไม้สีขาว" ซึ่งเป็นดอกไม้จริงเพิ่มเติมอีก และจะมีการนำ "ป้ายข้อความการแสดงการถวายความอาลัยมาเสริม" ในจุดนี้
นอกจากนี้ เทศบาลฯ ยังได้มีการปรับลดโทนสีของการตกแต่งจุดอื่นๆ ลงทั้งหมด เช่น บริเวณคูเมือง ประตูช้างเผือก และถนนท่าแพ โดยมีการเปลี่ยนรูปปั้นช้างจากสีชมพูเป็นสีขาว และนำพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์มาติดบนซุ้มไฟประดับด้วย
แต่จากกระแสดรามาที่หนักหน่วง ช่วงค่ำของวันที่ 28 ต.ค.2568 ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงใหม่ได้เร่งรื้อดอกไม้สีดำทั้งหมดออกจากเกาะกลางถนนเชิงสะพานนวรัฐแล้ว และได้ลบเส้นจราจรขาว-แดง บริเวณรอบเกาะกลางออก เผยให้เห็นเพียงสีขาวล้วนสีเดียว โดยมีการให้เหตุผลว่า ที่รื้อออกไปนั้นเพื่อนำไปทำใหม่ และจะนำกลับมาติดตั้งอีกครั้งเมื่อใกล้ถึงวันงานประเพณียี่เป็ง
นอกจากประเด็นดอกไม้สีดำแล้ว ยังมีประเด็นวิจารณ์แทรกซ้อนมาอีก เมื่อประชาชนเห็น "โคมรังมดส้ม" ที่เจ้าหน้าที่นำไปตกแต่งบริเวณประตูช้างเผือกและถนนท่าแพ ถูกแขวนอยู่ใน สภาพกลับหัว ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าทีมงานติดตั้งขาดความมืออาชีพ
ประชาชนชาวเชียงใหม่ตั้งข้อสังเกตว่า มืออาชีพจะส่งมอบงานที่อ้างว่างานติดตั้งไม่เสร็จ ไม่ได้ โคมที่ติดตั้งแบบกลับหัว ในเมื่อรู้แล้วว่าทำผิด ก็ควรรีบออกมาแก้ไข แต่หลังเกิดกระแสดรามา และมีผู้รู้มากมายมาแสดงความเห็นที่ถูกต้อง ก็ยังไม่มีการแก้ไขใด ๆ
ภาพ : Panupong Boonruang
ภาพ : Panupong Boonruang
ข้อสงสัยงบประมาณ 14 ล้านบาท-การจัดซื้อจัดจ้าง
ขณะที่ดรามาเรื่องสีดอกไม้ยังไม่จางหาย นักการเมืองท้องถิ่นและ สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน (ปชน.) ได้กางเอกสารตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างงานตกแต่งเมือง การตกแต่งเมืองครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณเทศกาลยี่เป็งประจำปี ซึ่งตั้งไว้รวมทั้งสิ้น 14,690,000 บาท
นายณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล สส.เชียงใหม่ ได้ตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดบริษัทจัดดอกไม้เพียงบริษัทเดียวจึงได้รับจ้างจัดงานใหญ่ ๆ ของจังหวัดหลายงานติดต่อกัน เช่น งานไม้ดอก งานสงกรานต์ งานยี่เป็ง ของทั้งเทศบาลนครและ อบจ. และมีการตั้งคำถามว่า ทำไมถึงไม่เปิดประมูลแบบปกติ (E-bidding)
ภาพ : Panupong Boonruang
ภาพ : Panupong Boonruang
แต่ใช้วิธีคัดเลือก ตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฯ 2560 ซึ่งปกติวิธีคัดเลือกจะใช้เฉพาะกรณีที่งานมีลักษณะพิเศษ ใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะ มีความจำเป็นเร่งด่วน หรือมีข้อจำกัดทางเทคนิค แต่สำหรับ "งานดอกไม้ยี่เป็ง" นั้น เป็นงานประจำทุกปี จึงเกิดคำถามว่า แท้จริงแล้วเป็นเพียง "งานซ้ำ" ที่เลือกกันเองหรือไม่
อ่านข่าวอื่น :
"โคมฮังมดส้ม" ศรัทธาที่ส่องสว่าง ภูมิปัญญาล้านนาเทศกาล "ยี่เป็ง"
ตม.เปิดข้อมูล 11 เกาหลีใต้เข้าออกไทย โต้ข่าวถูกลักพาตัว











