วันนี้ (31 ก.ค.2564) ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานผู้ติดเชื้อเพิ่ม 18,912 คน จำแนกเป็นติดเชื้อใหม่ 18,102 คนติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 810 คน ผู้ป่วยสะสม 568,424 คน (ตั้งแต่ 1 เม.ย.) หายป่วยกลับบ้าน 10,750 คน หายป่วยสะสม 364,494 คน กำลังรักษาตัว 200,510 คน เสียชีวิต 178 คน
ขณะที่ยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 เพิ่มเป็น 597,287 คน และตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสม 4,857 คน ขณะเดียวกัน
ทั้งนี้ถือเป็นการรายงานผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงที่สุด และเสียชีวิตสูงที่สุดของไทย และหากย้อนตัวเลขตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาพบตัวเลขสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเกิน 10,000 คนต่อวันดังนี้
- วันที่ 24 ก.ค.ติดเชื้อเพิ่ม 14,260 คน เสียชีวิต 119 คน
- วันที่ 25 ก.ค.ติดเชื้อเพิ่ม 15,335 คน เสียชีวิตอีก 129 คน
- วันที่ 26 ก.ค.ติดเชื้อเพิ่ม 15,376 ราย เสียชีวิต 87 คน
- วันที่ 27 ก.ค.ติดเชื้อเพิ่ม 14,150 ราย เสียชีวิต 118 คน
- วันที่ 28 ก.ค.ติดเชื้อเพิ่ม 16,533 ราย ตายเพิ่ม 133 คน
- วันที่ 29 ก.ค.ติดเชื้อเพิ่ม 17,669 คน เสียชีวิต 165 คน
- วันที่ 30 ก.ค. ติดเชื้อเพิ่ม 17,345 คน เสียชีวิต 117 คน
- วันที่ 31 ก.ค.ติดเชื้อเพิ่ม 18,102 คน เสียชีวิต 178 คน
อ่านข่าวเพ่ิ่ม ฉากทัศน์ โควิด "ล็อกดาวน์" ต่อ 2 เดือนลดอัตราตาย-ติดเชื้อเพิ่ม

พบโควิดสายพันธุ์เดลตาเพิ่ม 2,215 คน
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยผลการเฝ้าระวังสายพันธุ์ COVID-19 ในประเทศไทย โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับเครือข่ายห้องปฏิบัติการ โดยเป็นข้อมูลการเฝ้าระวังระหว่างวันที่ 17-23 ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่าจากการสุ่มตรวจผู้ติดเชื้อทั้งหมด 3,206 คน เป็นสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) จำนวน 2,215 คน หรือร้อยละ 69.1 ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นค่อนข้างรวดเร็ว ส่วนสายพันธุ์อัลฟา(อังกฤษ) พบจำนวน 905 คน หรือร้อยละ 28.2 และสายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) จำนวน 86 คน ร้อยละ 2.7
โดยพบในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จากจำนวน 1,273 ราย เป็นสายพันธุ์เดลตา จำนวน 1,053 คน หรือร้อยละ 82.7 สายพันธุ์อัลฟา จำนวน 220 คน หรือร้อยละ 17.3 ส่วนสายพันธุ์เบตาไม่พบผู้ติดเชื้อ
ส่วนภูมิภาคพบผู้ติดเชื้อ 1,933 คน เป็นสายพันธุ์เดลตา 1,162 คนหรือร้อยละ 60.2 สายพันธุ์อัลฟา 685 คน หรือร้อยละ 35.4 และสายพันธุ์เบตา 86 คน ร้อยละ 4.4 โดยสายพันธุ์เดลตามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และขณะนี้พบแล้ว 72 จังหวัด

แนวโน้มสายพันธ์ุเบตาลดลง-พบที่บึงกาฬรวม 5 คน
ส่วนสายพันธุ์อัลฟาและสายพันธุ์เบตา มีแนวโน้มสัดส่วนลดลง โดยสายพันธุ์เบตาส่วนใหญ่ยังพบในพื้นที่ภาคใต้มากที่สุดที่จ.นราธิวาส และมีจำนวนประปรายใน จ.ปัตตานี สตูล ตรัง กระบี่ สุราษฏร์ธานี และมีพบที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จ.บึงกาฬ
สำหรับสายพันธุ์เบตาที่พบที่ จ.บึงกาฬ ที่ผ่านมาพบ 4 คน สัปดาห์นี้พบ 1 คนเป็นญาติกับผู้ป่วยที่ยืนยันก่อนหน้านี้ ซึ่งขณะนี้หน่วยงานในพื้นที่ได้ดำเนินการติดตามเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้นข้อมูลการเฝ้าระวังทั้งประเทศระหว่างวันที่ 1 เม.ย.-23 ก.ค.ที่ผ่านมา สายพันธุ์อัลฟาจำนวน 13,311 คนหรือร้อยละ 61.18 สายพันธุ์เดลตา จำนวน 7,977 คน หรือร้อยละ 36.67 และสายพันธุ์เบตา จำนวน 468 คนหรือร้อยละ 2.15% ส่วนการติดเชื้อร่วม 2 สายพันธุ์ (Mix infection) ขณะนี้ยังไม่พบรายใหม่เพิ่มแต่อย่างใด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขอเร่งผลิต "ฟาวิพิราเวียร์" ในระบบวันละ 1 ล้านเม็ดภายใน ส.ค.นี้
"ถุงแดง" หาได้ที่ไหน? เซฟชีวิตให้ปลอดภัยจาก "ติดเชื้อ"