วันนี้ (6 ส.ค.2564) หลังกระทรวงสาธารณสุข เปิดแผนการจัดส่งวัคซีนไฟเซอร์ ล็อตบริจาค จำนวน 1,500,000 โดส โดย 700,000 โดส จะใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือบูสเตอร์โดส ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทั้ง 12 เขตสุขภาพ ในรอบต้นเดือน ส.ค. ซึ่ง จ.บุรีรัมย์ เป็นหนึ่งในจังหวัดที่ได้รับจัดสรรวัคซีนจำนวนมาก จนเกิดการตั้งข้อสังเกตว่าการจัดสรรวัคซีนเป็นธรรมหรือไม่
นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะทำงานด้านบริหารจัดการการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 กรณีวัคซีนไฟเซอร์ ชี้แจงว่า กระทรวงสาธารณสุขจัดสรรวัคซีนเป็นไปตามเกณฑ์ และตามจำนวนบุคลากรที่แจ้งรายชื่อความประสงค์จะฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เพื่อบูสเตอร์โดส และหากเปรียบเทียบจำนวนวัคซีนที่จัดสรรให้แต่ละจังหวัดในเขตสุขภาพที่ 3 ประกอบด้วย 4 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ ถือว่าได้น้อยกว่า จ.นครราชสีมา กว่า 8,000 โดส
ทั้งนี้ ขอย้ำว่าการจัดสรรในรอบแรกนี้กระจายไปก่อนประมาณร้อยละ 50 - 70 ของรายชื่อที่แจ้งมา และจะจัดสรรเพิ่มเติมในรอบที่ 2 ซึ่งแต่ละจังหวัดส่งรายชื่อมาเพิ่มเติมได้
ส่วนกรณีองค์การอนามัยโลก ออกมาเรียกร้องให้นานาชาติระงับโครงการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เป็นการชั่วคราว เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของการฉีดวัคซีนทั่วโลก นพ.สุระ กล่าวว่า การฉีดเข็มที่ 3 ของไทย กำหนดฉีดเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 เท่านั้น เพราะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยง ส่วนการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ในกลุ่มอื่นนั้น ขณะนี้ก็พยายามดำเนินการฉีดวัคซีนควบคู่กันไปอยู่แล้ว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
รองโฆษกรัฐบาลเปิดสัดส่วน วัคซีนไฟเซอร์ ใครได้บ้าง
สหรัฐฯ บริจาควัคซีนให้ไทยเพิ่ม รวมเป็น 2.5 ล้านโดส
องค์การอนามัยโลกเรียกร้องชะลอฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น
แท็กที่เกี่ยวข้อง: