วันนี้ (18 ส.ค.2564) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้รับร้องเรียนจากประชาชนเกี่ยวกับคลินิกเอกชน ที่ตั้งจุดบริการคัดกรอง COVID-19 ในพื้นที่สาธารณะ จนประชาชนโดยรอบเกิดความกังวลว่า จะเกิดการสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกิดคลัสเตอร์จากจุดบริการของคลินิก
ทั้งนี้ สบส.ขอกำชับให้ผู้ประกอบกิจการและผู้ดำเนินการ คุมเข้มมาตรฐานบริการตรวจคัดกรองและตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการติดเชื้อ COVID-19 มีการจัดตั้งจุดให้ถูกต้องปลอดภัย ตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดโดยให้จัดตั้งจุดบริการคัดกรองในรูปแบบ One stop service ตั้งแต่การคัดกรอง จนสิ้นสุดการรักษา
ขอให้แยกจากจุดบริการผู้ป่วยนอกทั่วไป ห้ามปะปนกับจุดให้บริการอื่นๆของคลินิก หรือพื้นที่สาธารณะอย่างทางเท้าด้านหน้าคลินิกโดยเด็ดขาด หากพบว่าคลินิกแห่งใดปฏิบัติไม่ถูกต้องตามมาตรฐานก็จะดำเนินการตามพ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับ

เปิดโทษความผิดตั้งจุดคัดกรองโควิดไม่เหมาะสม
สำหรับบทกำหนดโทษของสถานพยาบาลเอกชนที่ตั้งจุดให้บริการตรวจคัดกรอง COVID-19 ไม่เหมาะสม จนอาจจะก่อให้เกิดการแพร่กระจายของโรคนั้น
ตาม พ.ร.บ.พยาบาล พ.ศ.2541 ผู้ดำเนินการสถานพยาบาล จะมีความผิดในฐานไม่ควบคุมและดูแลให้ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพของตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และในกรณีที่พบว่า ผู้ให้บริการมิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือผู้ประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ ผู้ให้บริการรายดังกล่าว จะถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ฐานประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หรือมีความผิดตามพ.ร.บ.วิชาชีพเทคนิคการแพทย์ พ.ศ.2547 ฐานประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ โดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ท่านใดพบเห็นการจัดตั้งจุดบริการตรวจคัดกรอง COVID-19 ของคลินิกที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายในเขตกรุงเทพฯ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนสบส. 1426 และในส่วนภูมิภาคให้แจ้งที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง