วันนี้ (20 ส.ค.2564) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า วันนี้ เป็นประธานการลงนามในการแก้ไขสัญญาระหว่างอธิบดีกรมควบคุมโรค กับบริษัทไฟเซอร์ เพื่อสั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์ จากเดิม 20 ล้านโดส ที่ลงนามไปแล้วเมื่อวัน 20 ก.ค.ที่ผ่านมา รวมวัคซีนไฟเซอร์ที่จะเข้ามา เป็น 30 ล้านโดส โดยทยอยส่งให้ไทยในไตรมาส 4 เพื่อเสริมแผนกระจายวัคซีนของประเทศ ซึ่งจะทำให้มีวัคซีนฉีดให้กับประชากรในประเทศไทย 100 ล้านโดส ภายในปี 2564
ส่วนรายละเอียดเรื่องกลุ่มเป้าหมายในการฉีดวัคซีนนั้นให้เป็นเรื่องของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้พิจารณาต่อไป หน้าที่ของรมว.สาธารณสุข คือการสนับสนุน จัดหางบประมาณมาให้
ประสานกต.เร่งหาวัคซีนโควิดเพิ่ม
ขณะที่เมื่อวานนี้ ( 19 ส.ค.) นายอนุทิน หารือร่วมกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงการต่างประเทศ เกี่ยวกับการประสานจัดหาวัคซีน COVID-19 เพิ่มเติมให้ไทย ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศได้เจรจาทำให้ไทยได้รับวัคซีนบริจาคเข้ามาใช้เพิ่มขึ้น เช่น วัคซีนแอสตราเซเนกาจากญี่ปุ่น วัคซีนซิโนแวคจากจีน และวัคซีนไฟเซอร์จากสหรัฐอเมริกา
ล่าสุดคือการเจรจาแลกเปลี่ยนวัคซีนแอสตร้าเซเนกากับประเทศภูฏาน ส่วนกรณีใบรับรองการฉีดวัคซีนของชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์นั้น ผู้ฉีดวัคซีนที่ไทยให้การรับรองว่าเดินทางเข้ามาได้ คือ วัคซีนซิโนแวค ซิโนฟาร์ม แอสตร้าเซนเนก้า ไฟเซอร์ โมเดอร์นา และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ครบโดสตามที่กำหนดเนื่องจากวัคซีนเหล่านี้มีการขึ้นทะเบียนในประเทศไทยแล้ว
ส่วนวัคซีนสปุตนิก-วี ยังอยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนในประเทศไทย คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติจะมีการประชุมเร็วๆ นี้ เพื่อพิจารณาให้ผู้ที่ฉีดวัคซีน สปุตนิก-วี สามารถเดินทางเข้ามาได้เช่นกัน
สำหรับการฉีดวัคซีนชาวต่างประเทศที่อาศัยอยู่ในไทย ข้อมูลถึงวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ฉีดแล้ว 356,337 คน คิดเป็น 7.27% ของชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยทั้งหมด ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว 107,106 คน คิดเป็น 30.1% เป็นชาวต่างชาติอายุ 60 ปีขึ้นไป 27,028 คน โดย 10 สัญชาติที่ได้รับการฉีดมากที่สุด คือ เมียนมา จีน กัมพูชา ลาว ญี่ปุ่น อินเดีย ฟิลิปปินส์ อังกฤษ ฝรั่งเศส และอเมริกันตามลำดับ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไทยหายป่วย 20,478 คน ติดโควิดเพิ่ม 19,851 คน