การก่อเหตุระเบิดบริเวณสนามบินนานาชาติฮามิด คาร์ไซ ยิ่งทำให้กลุ่มไอเอส-เค ถูกจับตามองมากขึ้น หลังจากกลุ่มไอเอส-เคเผยภาพผู้ลงมือก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีทหารอเมริกันและพันธมิตรอัฟกัน เหตุการณ์นี้ทำให้สหรัฐฯ เสียกำลังพล 13 นาย ถือเป็นการสูญเสียมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา
ขณะที่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก โดยกล่าวถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ ว่า "จงรู้ไว้ด้วยว่าเราจะไม่ให้อภัย เราจะไม่ลืม เราจะไล่ล่าคุณ และให้คุณชดใช้"
เหตุระเบิด 2 ครั้งซ้อน ครั้งแรกเกิดขึ้นบริเวณประตูแอบบีย์ ซึ่งเป็นจุดที่ทหารอเมริกันประจำการอยู่ ส่วนระเบิดครั้งที่ 2 เกิดขึ้นใกล้โรงแรมบารอน ห่างจากจุดที่เกิดระเบิดครั้งแรกไม่มากนัก แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่กลุ่มไอเอส-เค ก่อเหตุโจมตีจนสร้างความสูญเสียเป็นวงกว้าง
กลุ่มไอเอส-เค มีฐานที่มั่นหลักอยู่บริเวณพรมแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือติดกับปากีสถาน กลุ่มนี้ตั้งขึ้นเมื่อปี 2557 โดยนักรบตอลีบานในปากีสถาน หรือเตห์รีค อี ตอลีบาน ปากีสถาน หลังกลุ่มไอเอส-เค มองว่า ตอลีบานละทิ้งหลักศาสนาและเลือกเปิดทางเจรจาสันติภาพกับสหรัฐฯ ทั้งสองฝ่ายเปิดศึกเผชิญหน้าหลายครั้งและทำให้สมาชิกแต่ละฝ่ายบาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมาก ขณะที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ตั้งข้อสังเกตว่ากลุ่มไอเอส-เค อาจฉวยโอกาสใช้ช่วงเวลาไร้ขื่อแปคืนชีพอีกรอบ
ผศ.มาโนชญ์ อารีย์ อาจารย์ภาควิชารัฐศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาศรีนครินทรวิโรฒ อธิบายถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มติดอาวุธหลังอัฟกานิสถานอยู่ในมือตอลีบาน ว่า หากตอลีบานปล่อยให้กลุ่มติดอาวุธต่าง ๆ เข้ามาเคลื่อนไหว จะทำให้ภาพลักษณ์ตอลีบานเสียหาย และหลายประเทศแทรกแซงด้วยวิธีการต่าง ๆ