เร่งหามือทิ้ง "งูหลามต้นไม้-กิ้งก่าอินโด" ริมป่าชายเลนสตูล

สิ่งแวดล้อม
30 ก.ย. 64
09:11
6,488
Logo Thai PBS
เร่งหามือทิ้ง "งูหลามต้นไม้-กิ้งก่าอินโด" ริมป่าชายเลนสตูล
เร่งแกะรอยมือทิ้งงูหลามต้นไม้ 18 ตัว และกิ้งก่าอินโด 16 ตัวใส่กล่องแอบทิ้งริมป่าชายเลนเกาะปูยู จ.สตูล กรมอุทยานฯรับมอบจากศุลกากร ระบุเป็นสัตว์ป่าควบคุมห้ามนำเข้า-ส่งออกความผิดจำคุก 6 เดือนปรับไม่เกิน 1 ล้านบาทหากหลุดในธรรมชาติเป็นเอเลียนสปีชีส์

วานนี้ (29 ก.ย.2564) นายประเสริฐ สอนสถาพรกุลผอ.กองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญาไซเตส กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่า สตูล จ.สตูล เข้ารับมอบสัตว์ป่าต่างประเทศของกลางจากศุลกากรสตูล หลังพบงูหลามต้นไม้และกิ้งก่าอินโด ถูกนำวางทิ้งอยู่บริเวณริมป่าชายเลน บริเวณเกาะปูยู ต.ปูยู อ.เมือง จ.สตูล

นายประมวล สังข์ทอง หัวหน้าด่านตรวจสัตว์ป่าสตูล กล่าวว่า จากการเข้าตรวจสอบ ไม่พบตัวผู้กระทำผิด พบสัตว์ป่าจำนวน 34 ตัว ประกอบด้วย งูหลามต้นไม้  18 ตัว ราคาประเมินตัวละ 6,000 บาท  และกิ้งก่าอินโด 16 ตัว ราคาประเมินตัวละ 5,000 บาท มูลค่าราคาประเมินรวม 188,000 บาทใส่ในกล่องทิ้งไว้และยังไม่ตาย 

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

 

ทั้งนี้สัตว์ป่าของกลางดังกล่าว เป็นสัตว์ป่าควบคุมตาม พ.ร.บ สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 23 ห้ามนำเข้าหรือส่งออกสัตว์ป่าควบคุมโดยมิได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่จึงส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสตูล สำหรับของกลางได้นำส่งมอบให้สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าโตนงาช้าง จ.สงขลา เพื่อเก็บรักษาต่อไป 

กรมอุทยานฯ ระบุว่า งูหลามต้นไม้ และกิ้งก่าอินโด ถือเป็นสัตว์ป่าควบคุม หมายความว่า สัตว์ป่าที่ได้รับความคุ้มครองตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ และสัตว์ป่าอื่นที่ต้องมีมาตรการควบคุมที่เหมาะสมตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ตามมาตรา 23 ผู้ใดไม่ปฏิบัติ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้แหล่งข่าวระบุว่า ผู้ค้าที่เลี้ยงไว้เพื่อขายและเตรียมนำไปส่งแต่อาจได้รับรายงานว่ามีด่านจึงทิ้งสัตว์ป่าทั้งหมดไว้ อย่างไรก็ตาม สัตว์ป่าเหล่านี้ถือเป็นเอเลียนสปีชีส์ถ้าปล่อยทิ้งในระบบนิเวศอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อสัตว์พื้นถิ่นได้ 

 

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

 

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ข่าวที่เกี่ยวข้อง