วันนี้ (14 ต.ค.2564) นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ จ.จันทบุรี พบว่าเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา วัดปริมาณฝนสูงสุดในเขตอำเภอต่างๆ ดังนี้
- อ.เชาคิชฌกูฏ 160 มม.
- อ.มะขาม 90.15 มม.
- อ.เมืองจันทบุรี 322.9 มม.
รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ฝนที่ตกหนักส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำจันทบุรีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ก่อนจะไหลหลากลงสู่พื้นที่ตอนล่างบริเวณ อ.เมืองจันทบุรี โครงการชลประทานจันทบุรี ได้เปิดบานระบายน้ำที่คลองภักดีรำไพ เพื่อผันน้ำระบายลงสู่ทะเลอย่างเต็มศักยภาพ ช่วยลดยอดปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านตัวเมืองจันทบุรี
ปภ.สรุปน้ำท่วม 6 อำเภอ -ปักธงแดงเตือน
ยังมีมวลน้ำจำนวนมากไหลลงแม่น้ำจันทบุรี และมวลน้ำจากตอนบน อ.มะขาม ทำให้ระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำท่า Z.57 อ.เมือง เหลือเพียง 0.25 เมตรน้ำจะล้นตลิ่ง หากมีฝนตกเพิ่มเติมในพื้นที่อีก จะทำให้น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำได้ และจะส่งผลให้คลองสาขาที่อยู่ด้านบนไม่สามารถระบายน้ำลงสู่แม่น้ำจันทบุรีได้อย่างสะดวก
ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี รายงานพื้นที่ประสบอุทกภัย 6 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองจันทบุรี อ.ท่าใหม่ อ.ขลุง อ.มะขาม อ.แหลมสิงห์ และอ.เชาคิชฌกูฏ รวม 32 ตำบล 162 หมู่บ้าน 9 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 5,000 ครัวเรือน ประมาณ 15,000 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 08.30 เจ้าหน้าที่ปักธงแดง บนสะพานวัดจันทนาราม เป็นสัญญาณแจ้งเตือนชาวบ้านริมแม่น้ำจันทบุรีว่า ระดับน้ำเข้าสู่เข้าขั้นวิกฤต หลังมีมวลน้ำจากอ.เชาคิชฌกูฏ และอ.มะขาม ซึ่งเป็นน้ำที่เกิดจากฝนตกหนัก กำลังไหลเข้ามาเติมในแม่น้ำจันทบุรี ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น
ขณะที่ชาวบ้านในชุมชนริมน้ำจันทบูร ทยอยเข้ามาสำรวจปริมาณน้ำต่อเนื่อง ล่าสุดยังไม่มีบ้านเรือนประชาชนริมน้ำจันทบุรี ในเขตเมืองได้รับผลกระทบ
นอกจากนี้พบว่าบริเวณสะพานคลองแสลง ถนนสายแสลง-วังแซ้ม ด้านหน้าวัดแสลง หมู่ 2 ต.แสลง อ.เมืองจันทบุรี ซึ่งเชื่อมเส้นทางหลักระหว่างพื้นที่หมู่ 2 กับหมู่ 3 พบว่าคอสะพานถูกกระแสน้ำซัดขาดพังเสียหาย เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงชนบท นำแท่งแบริเออ มาวางปิดกั้นเส้นทางช่วงคอสะพานที่ขาด ติดตั้งป้ายสัญญาณเตือนงดใช้เส้นทาง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฝนตกหนักทำน้ำท่วม "จันทบุรี" บางพื้นที่น้ำสูงเกือบ 2 เมตร