เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2564 ตำรวจกองกำกับการควบคุมธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จับกุมหญิงไทย อายุ 39 ปี หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในความผิดฐานฉ้อโกง โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

สำหรับคดีนี้ ผู้ต้องหาใช้อุบาย "แสร้งรักออนไลน์ หรือโรแมนซ์ สแกม ใช้รูปโปรไฟล์ เป็นหญิงต่างชาติ สร้างข้อมูลเท็จในเฟซบุ๊ก และไลน์ อ้างเป็นทหารหญิงอเมริกัน ส่งข้อความคุยกับผู้เสียหาย ระบุว่า จะมาเที่ยวเมืองไทย หลังเสร็จภารกิจที่ประเทศอัฟกานิสถาน โดยได้ส่งสัมภาระมาล่วงหน้าแล้ว

จากนั้นโทรศัพท์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ทางการไทย ติดต่อมาหาผู้เสียหายว่ามีสัมภาระส่งมาที่สนามบินดอนเมือง แต่มีน้ำหนักเกิน ต้องชำระภาษี 37,000 บาท ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงโอนเงินให้กับผู้ก่อเหตุ สำหรับหญิงไทยคนนี้ พบข้อมูลว่ามีชายต่างชาติร่วมขบวนการด้วย อยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม
พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา โฆษกตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ปัจจัยสำคัญที่ยังทำให้มีผู้หลงเชื่อ และถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุลักษณะนี้หลอกลวง มาจากการเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีตามยุคสมัยที่ไม่เท่ากัน จึงอยากฝากถึงผู้ใช้จึงต้องมีความรู้เท่าทัน ควรตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เชื่อว่ายังคงมีผู้เสียหายหลายคนที่ถูกก่อเหตุในลักษณะนี้ แต่ยังไม่มีการแจ้งความร้องเรียน จึงขอย้ำเตือนในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในปัจจุบัน ควรหาข้อมูลข้อแนะนำในการป้องกันการถูกหลอก

ทั้งนี้ ขณะนี้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจ สอท. หรือกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) มีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะแหล่งค้นหาข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ เช่น กูเกิล เป็นต้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
วันแรก! อภ.ขาย ATK ชุดละ 40 บาทผ่านออนไลน์จัดส่งถึงบ้าน
ไฟไหม้โรงงานรองเท้าซอยกิ่งแก้ว คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
แท็กที่เกี่ยวข้อง: