วันนี้ (26 ต.ค.2564) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงข่าวการเฝ้าระวังสายพันธุ์และการกลายพันธุ์ COVID-19 ว่า ในระยะหลังไทยพบสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) โดยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การสุ่มตรวจสายพันธุ์พบเป็นเดลตา 1,069 คน สายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) 7 คน และสายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) 9 คน
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMh0yijrCLWPqVgt3TNB4rxpNSu7b.jpg)
กรณี 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เคยพบว่า จ.ยะลา มีอัลฟาเป็นส่วนใหญ่ แต่ในขณะนั้นสุ่มตรวจตัวอย่างไม่ได้มากนัก ขณะที่ปัจจุบันสุ่มตรวจตัวอย่างเพิ่มขึ้น พบว่า 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์เดลตา
ขณะนี้การระบาดในทั่วทุกภูมิภาคของไทย ส่วนใหญ่เดลตาเป็นหลัก มีเบต้าเล็กน้อยในภาคใต้ ส่วนอัลฟามีสัดส่วนลดลงเรื่อย ๆ
นพ.ศุภกิจ อธิบายว่า สายพันธุ์อัลฟา พลัส มีส่วนของสายพันธุ์เดิม และเติมการกลายพันธุ์บางอย่างขึ้นมา โดยมีการกลายพันธุ์ในตำแหน่ง E484K ซึ่งเป็นตำแหน่งที่หลบภูมิได้ และอาจทำให้อาการเพิ่มขึ้น โดยไทยตรวจพบสายพันธุ์อัลฟา พลัส ได้แก่ ผู้ต้องขัง จ.เชียงใหม่ 2 คน เก็บตัวอย่างในวันที่ 27 ก.ย.2564 อยู่ระหว่างสอบสวนโรค, จ.จันทบุรี และตราด ตรวจพบ 16 คน เป็นแรงงานข้ามชาติชาวกัมพูชา 12 คน และคนไทย 4 คน ทั้งหมดทำงานในล้งลำไย เก็บตัวอย่างวันที่ 9-10 ก.ย.2564
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMh0yijrCLWPqVgtx5VKkkUrB8BIq.jpg)
ข้อมูลจาก GISAID พบว่าอัลฟา พลัส กำลังระบาดจำนวนมากในกัมพูชา ซึ่งการกลายพันธุ์ชนิด E484K บน Spike พบได้ในสายพันธุ์ เบตา และแกรมมา ที่มีปัญหาเรื่องการหลบภูมิ อย่างไรก็ตาม สายพันธุ์อัลฟาในไทยลดลง และเป็นการระบาดสายพันธุ์เดลตาแทน ทำให้การแพร่กระจายไม่สูง แต่จะเฝ้าระวังและสุ่มตรวจเพิ่มขึ้น
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMh0yijrCLWPqVgtuhdiZezsf3Fbt.jpg)
อัลฟา พลัส ไม่ใช่เชื้อใหม่ เจอที่อังกฤษตั้งแต่ปลายเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMh0yijrCLWPqVgtz3fiFAhuik8dF.jpg)
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สายพันธุ์เดลตา ขณะนี้มี AY.1 ถึง AY.47 โดยไทยพบสายพันธุ์ย่อยของเดลตา 18 สายพันธุ์ และการสุ่มตรวจพบมากที่สุด คือ AY.30 จำนวน 1,341 คน ขณะที่เดลตา พลัส (AY.4.2) ที่ระบาดในประเทศอังกฤษ และกังวลว่ามีการแพร่กระจายเร็วกว่าเดลตา 10-15% นั้น ขณะนี้ยังไม่พบในไทย
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMh0yijrCLWPqVgtsnGtzxtM71XFj.jpg)
ทั้งนี้ สถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหารได้ประสานงานมายังกระทรวงสาธารณสุข ตรวจพบสายพันธุ์เดลตา พลัส (AY.1) เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา โดยตรวจตัวอย่างที่ จ.กำแพงเพชร ในผู้ป่วยชาย 1 คน ที่เดินทางจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งการกลายพันธุ์ที่ K417N ยังไม่มีข้อมูลว่าจะทำให้หลบภูมิมากขึ้น แตกต่างจาก AY.4.2 และยังไม่ถูกขึ้นบัญชีที่น่าจะมีปัญหา
ผู้ป่วยรายนี้เข้ามาอยู่ในโรงพยาบาลสนามและหายเป็นปกติดี ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ต้องเก็บตัวอย่างคนที่มีความเสี่ยง หรือสัมผัสมาตรวจเพิ่มเติม
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMh0yijrCLWPqVgtjLMen6znfrU7J.jpg)
นพ.ศุภกิจ สรุปข้อมูลว่า ขณะนี้ไทยพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์อัลฟา พลัส จำนวน 18 คน และเดลตา พลัส AY.1 จำนวน 1 คน อย่างไรก็ตาม ไทยได้มีการตรวจรหัสพันธุกรรมทั้งตัว อย่างน้อยสัปดาห์ละ 450 ตัวอย่าง และส่งข้อมูลไปที่ GISAID
ขณะที่นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีพบคนไทยคนแรกจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ติดเชื้อ COVID-19 กลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา พลัส ว่า ที่ผ่านมา สธ.โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ติดตามและตรวจสอบการติดเชื้อ COVID-19 ในไทยมาตั้งแต่ต้น ทำให้มีข้อมูลที่รวดเร็วและเปิดเผย
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMh0yijrCLWPqVgt1oY4ptbsWvKzv.jpg)
การพบสายพันธุ์ใหม่ ทาง สธ. เปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส ไม่มีการปกปิดข้อมูล และขอย้ำว่าอย่าตื่นตระหนก ให้ติดตามข้อมูลจาก สธ.เพื่อปฏิบัติตัวได้ถูกตามช่วงเวลา
นายสาธิต กล่าวว่า สำหรับเชื้อไวรัส COVID-19 กลายพันธุ์ เป็นเรื่องปกติ โดยหลักการหากมีการกลายพันธุ์ ที่มีนัยสำคัญจะทำให้มีอาการโรครุนแรงขึ้น หรือติดต่อกันง่ายขึ้น ลักษณะเดียวกับเชื้อเคยกลายพันธุ์จากอัลฟา เป็นเดลตา และหากดื้อต่อยาและวัคซีนมากขึ้นก็จะเป็นการกลายพันธุ์ที่มีนัยสำคัญ แต่ขณะนี้ยังไม่ถือว่ามีนัยสำคัญ และทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ก็ยังไม่จัดเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ไทยพบติดโควิดสายพันธุ์ "เดลตา พลัส" 1 คน