วันนี้ (28 ต.ค.2564) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยผลการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด 19 ในประเทศไทย โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับเครือข่ายห้องปฏิบัติการว่า ข้อมูลการเฝ้าระวังทั้งประเทศ ระหว่าง 16-22 ต.ค.2564 จากการสุ่มตรวจผู้ติดเชื้อทั้งหมด 1,085 คน เป็นสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) จำนวน 1,069 คน (98.6 %) สายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) จำนวน 9 คน (0.8 %) และสายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) จำนวน 7 คน (0.6 %)
โดยในพื้นที่กรุงเทพมหานครสุ่มตรวจจำนวน 16 คน เป็นสายพันธุ์เดลตา จำนวน 15 คน (93.8%) สายพันธุ์อัลฟา จำนวน 1 คน (6.2%) ส่วนสายพันธุ์เบตา ไม่พบผู้ติดเชื้อ
ส่วนภูมิภาคสุ่มตรวจจำนวน 1,069 คน เป็นสายพันธุ์เดลตา 1,054 คน (98.6%) สายพันธุ์เบตา 9 คน (0.8%) และสายพันธุ์อัลฟา 6 คน (0.5%)
4 จว.ชายแดนใต้ พบสายพันธุ์เดลตา มากที่สุด
สำหรับในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ที่มีการแพร่ระบาดค่อนข้างมากนั้น จากการเฝ้าระวังสายพันธุ์ จำนวน 389 คน พบว่าส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์เดลตา 377 คน (96.9%) สายพันธุ์เบตา 9 คน (2.3%) และสายพันธุ์อัลฟา 3 คน (0.7%)
เพราะฉะนั้นเป็นเครื่องยืนยันว่า การระบาดในทั่วทุกภูมิภาคประเทศไทยขณะนี้ ส่วนใหญ่คือ สายพันธุ์เดลตาเป็นหลัก ส่วนอัลฟาลดลงเรื่อย ๆ
นายแพทย์ศุภกิจ กล่าวต่ออีกว่า มีประเด็นที่พูดถึงสายพันธุ์อัลฟาพลัสกับเดลตาพลัส ขอให้ข้อมูลว่า คำว่า "พลัส" คือมีพันธุกรรมของสายพันธุ์เดิม แล้วมีการเพิ่มการกลายพันธุ์บางจุดขึ้นมา
ในไทยพบ อัลฟาพลัส ชนิด E484K
จากการเฝ้าระวังสายพันธุ์ ขณะนี้เราตรวจพบอัลฟาพลัส ชนิด E484K คือ มีการกลายพันธุ์ตรงตำแหน่ง E484K ซึ่งเป็นตำแหน่งที่หลบภูมิได้ โดยพบผู้ติดเชื้อจำนวน 18 คน ในแรงงานข้ามชาติชาวกัมพูชา 12 คน และคนไทย 4 คน ที่ทำงานในล้งลำไยในพื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.ตราด และพบในผู้ต้องขัง จ.เชียงใหม่ 2 คน ขณะนี้มีการเฝ้าระวังในพื้นที่และตรวจติดตามเพิ่มเติมแล้ว
ซึ่งสายพันธุ์อัลฟาพลัสนี้ไม่ใช่เชื้อใหม่ พบในอังกฤษเป็นประเทศแรก ปัจจุบันพบมีการระบาดในกัมพูชา หากพบสายพันธุ์นี้มากในไทย ก็อาจจะเป็นปัญหา
แต่จากข้อมูลการระบาดในกัมพูชาพบว่า สายพันธุ์อัลฟาพลัส E484K มีจำนวนลดลงแล้ว แสดงให้เห็นถึงว่ามีอำนาจในการแพร่กระจายไม่สูง อย่างไรก็ตาม เราจะดำเนินการตรวจเพิ่มเติมในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป
เฝ้าระวังสายพันธุ์ย่อยเดลตา
ส่วนการเฝ้าระวังสายพันธุ์ย่อยเดลตา หรือ เดลตาพลัส ขณะนี้ในประเทศไทยตรวจพบสายพันธุ์ย่อย อยู่ 18 ชนิด และชนิดที่พบมากที่สุดคือ ชนิด AY.30 จำนวน 1,341 คน จากจำนวนตรวจทั้งหมด 1,478 ตัวอย่าง
ยังไม่มีเดลตาพลัส ชนิด AY.4.2 ในไทย
สำหรับเดลตาพลัส ชนิด AY.4.2 ที่กำลังระบาดในยุโรปและหลายประเทศ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีข้อมูลว่ามีอำนาจในการแพร่กระจายเพิ่มขึ้นจากสายพันธุ์เดลต้า 10-15% นั้น ณ วันนี้ยังไม่พบสายพันธุ์นี้ในประเทศไทย
แต่ที่มีข้อมูลคือ พบสายพันธุ์เดลตาพลัส ชนิด AY.1 จำนวน 1 คน จาก จ.กำแพงเพชร ซึ่งตรวจพบโดยสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร และได้ประสานแจ้งมาที่กระทรวงสาธารณสุข
ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังตรวจเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ส่วนความกังวลว่าสายพันธุ์นี้จะรุนแรงหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่ามีฤทธิ์รุนแรงกว่าสายพันธุ์เดลตาปกติแต่อย่างใด
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวในตอนท้ายว่า ขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ร่วมกับเครือข่าย มีการตรวจพันธุกรรมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 450 ตัวอย่าง เมื่อตรวจเสร็จเราได้ลงข้อมูลการเฝ้าระวังสายพันธุ์ในฐานข้อมูลสากล GISAD ขณะนี้ลงข้อมูลไปแล้วจำนวน 5,302 ตัวอย่าง ทั้งนี้เพื่อให้ทั่วโลกได้ใช้เป็นข้อมูลเฝ้าระวังต่อไป
อ่านข่าวอื่น ๆ
"ไฟเซอร์" 1.5 ล้านโดสถึงไทย กลุ่ม 12-17 ปีฉีดวัคซีน 2 ล้านคน
แอมเนสตี้เรียกร้องผู้นำกลุ่ม G20 จัดสรรวัคซีนโควิด-19 อย่างเป็นธรรมทั่วโลก
“นายกฯ” สั่งปราบลอบขาย “ฟาวิพิราเวียร์” ขอช่วยสอดส่องพบอีก แจ้ง 1135