ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศ "ห้ามชุมนุม-มั่วสุม" รับเปิดประเทศ

สังคม
29 ต.ค. 64
16:30
4,618
Logo Thai PBS
ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศ "ห้ามชุมนุม-มั่วสุม" รับเปิดประเทศ
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศห้ามชุมนุม ทำกิจกรรม มั่วสุม เสี่ยงแพร่ระบาด COVID-19 รับเปิดประเทศ 1 พ.ย.นี้ ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

วันที่ 28 ต.ค.2564 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่ 13) โดยมีรายละเอียดว่า

ตามที่รัฐบาลได้ออกข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 36) ลงวันที่ 21 ต.ค.2564 และคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 18/2564 ลงวันที่ 21 ต.ค.2564 เรื่องพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ตามข้อกำหนดออกตาม
ความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548

เนื่องจากมีความจำเป็นที่จะต้องมีการฟื้นฟูประเทศเพื่อประโยชน์ด้านการใช้ชีวิตความเป็นอยู่และด้านเศรษฐกิจแก่ประชาชน เห็นควรให้มีการเปิดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้ามาจากต่างประเทศได้มากขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจและการจ้างงานในภาพรวมของประเทศ แม้ว่าที่ผ่านมาภาพรวมของสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายสาธารณสุขสามารถควบคุมและจำกัดขอบเขตพื้นที่การแพร่ระบาดของโรคได้ รวมทั้งรัฐบาลได้เตรียมความพร้อมโดยประสานความร่วมมือกับประเทศต้นทาง และบูรณาการการทำงานของพนักงานเจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงานทุกภาคส่วนในการกำหนดมาตรการรองรับเพื่อให้การปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นไปอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบควบคู่กับการกำหนดมาตรการทางด้านสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ให้ประชาชนมีความปลอดภัย รวมทั้งสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติและประชาชนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศอันจะส่งผลให้การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและสังคมสามารถดำเนินการควบคู่กับมาตรการด้านสาธารณสุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 15) ข้อ 3 และคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 4/2563 ลงวันที่ 25 มี.ค.2564 เรื่องแต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ข้อ 3 (6) และข้อกำหนดคำสั่ง ประกาศที่เกี่ยวข้อง จึงให้ปฏิบัติดังนี้


1.ให้ยกเลิกประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่ 11) ลงวันที่ 30 ก.ย.2564 และประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่ 23) ลงวันที่ 18 ต.ค.2564

2.ห้ามมิให้มีการมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค หรือการกระทำอันเป็นการฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน หรือการกลั่นแกล้งเพื่อแพร่โรค ณ ที่ใด ๆ ทั่วราชอาณาจักร

3.ห้ามมิให้มีการชุมนุม หรือการทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ในพื้นที่ที่มีประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูง พื้นที่เฝ้าระวัง เว้นแต่กรณีได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือกิจกรรมที่ได้รับการยกเว้น โดยให้ดำเนินการตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 30) ลงวันที่ 1 ส.ค.2564 และข้อกำหนด (ฉบับที่ 35) ลงวันที่ 15 ต.ค.2564

ทั้งนี้ ในเรื่องมาตรการควบคุมแบบบูรณาการสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูง พื้นที่เฝ้าระวัง ให้ดำเนินการตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 35) ลงวันที่ 15 ต.ค.2564

4.ในพื้นที่ที่มีประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูง พื้นที่เฝ้าระวัง ที่ได้มีประกาศหรือคำสั่งกำหนดให้เป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ห้ามมิให้มีการชุมนุม หรือการทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค เว้นแต่กรณีได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือกิจกรรมที่ได้รับการยกเว้น โดยให้ดำนินการตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 30) ลงวันที่ 1 ส.ค.2564 และข้อกำหนด (ฉบับที่ 36) ลงวันที่ 21 ต.ค.2564 ทั้งนี้ ในเรื่องมาตรการควบคุมแบบบูรณาการสำหรับพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวให้ดำเนินการตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 36) ลงวันที่ 21 ต.ค.2564

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศนี้ ต้องรับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในกรณีที่มีการออกข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับใหม่ ให้ประกาศฉบับนี้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อกำหนดฉบับใหม่ดังกล่าว

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2564 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 28 ต.ค.2564

พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง