วันนี้ (5 ธ.ค.2564) นางอัจฉรา ซิ้มเจริญ นักจากโครงการวิจัยติดตามพฤติกรรมของโครงการ Thailand Tiger Project DNP หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) พร้อมเจ้าหน้ากรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยังคงตระเวนจับพิกัดสัญญาณวิทยุตามหาเสือวิจิตร ในพื้นที่ ต.ปางตาไว อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร ในรัศมี 10 กิโลเมตร
เริ่มปฎิบัติภารกิจตั้งแต่เวลา 11.00 น. แบ่งทีมวิจัยร่วมกับชุดลาดตระเวน 2 ชุดสแกนพื้นที่ติดภูเขาและในชุมชน ซึ่งมีทั้งพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนชุมชนที่ติดกับพื้นที่ป่า
ทีมวิจัยนำเครื่องรับสัญญาณวิทยุ เพื่อจับสัญญาณจากปลอกคอเสือวิจิตร หลังจากพบร่องรอยเข้ามาใกล้สำนักสงฆ์บ้านคลองลึก เมื่อช่วง 2 วันก่อน เพื่อตรวจว่าเสือยังอยู่ในพื้นที่หรือไม่

ไทยพีบีเอสออนไลน์ พบว่า ทีมวิจัยต้องใช้ความพยายามในการตามหาเสือวิจิตร ทั้งเดินขึ้นเขา และเข้าพื้นที่ซึ่งค่อนข้างยากลำบาก แต่ละจุดมีการแวะจับสัญญาณเป็นระยะๆ ซึ่งมีการสอบถามในพื้นที่ใกล้เคียงที่พบเจอด้วย
นางอัจฉรา เปิดเผยว่า เข้ามาสแกนพื้นที่โซนกลาง แถวสำนักสงฆ์บ้านคลองลึก เพราะคิดว่าเป็นจุดสุดท้ายที่พบรอยตีนเสือวิจิตร หลังจากข้ามเขาน้ำอุ่นมาที่เขาลูกนี้ และสันนิษฐานว่า กำลังมุ่งหน้ากลับเข้าป่าฝั่งแม่วงก์หรือไม่ หรืออาจจะกลับมาที่เดิม เนื่องจากมีสภาพเป็นเขา 2 ลูกใกล้กัน
วันนี้เครื่องสแกนยังไม่พบสัญญาณจากปลอกคอเสือวิจิตร ซึ่งถ้าเสืออยู่ในรัศมีสัญญาณจะดังติ๊ดๆ เบาๆ แต่ถ้าเสือใกล้มาก ก็จะดังขึ้นแรงมากขึ้นกับระยะที่เสืออยู่

วอนโซเชียลอย่าแจ้งข่าวเสือมั่ว ทำให้คนหวาดกลัว
นายวิไล โคตรอินทร์ เจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการป้องกันรักษาป่าที่ 3 (ซับตามิ่ง) สายตรวจสบอ.12 จ.นครสวรรค์ กล่าวว่า จากการลาดตระเวนตอนกลางคืนและรุ่งเช้าวันนี้ พบมีการแจ้งข้อมูลจากทางเฟซบุ๊ก และโซเชียลในพื้นที่ เช่น แจ้งว่าเสือมาเข้าใกล้คอกปศุสัตว์ แต่เมื่อเข้าตรวจสอบพบว่าไม่เป็นความจริง
ไม่เจออะไรมีแต่ข่าวแจ้งเข้ามา จึงขอว่าอย่าแจ้งข้อมูลหรือข่าวมั่วๆ ลงในโซเชียลเพราะจะยิ่งทำให้เจ้าหน้าทำงานยากขึ้น และชาวบ้านที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงก็จะกลัวมากขึ้น
ด้าน น.ส.วีรยา โอชะกุล ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่12 (นครสวรรค์) กล่าวว่า จากการตรวจวัดพิกัดของนักวิจัยจากสถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ พบว่า ทิศทางของเสือวิจิตรกำลังเดินเข้าใกล้ป่าอนุรักษ์ และอุทยานแห่งชาติแม่วงก์
จากนี้จะย้ายทีมเฝ้าระวังไปสร้างความเข้าใจกับชุมชน พร้อมขยับแนวใกล้พื้นที่ป่ามากขึ้น เปิดทางให้เสือวิจิตรกลับเข้าป่าได้โดยสะดวก ซึ่งต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้านในเกี่ยวกับเส้นทางที่เสือจะเดินกลับพื้นที่ป่า ให้ระมัดระวังและไม่ทำสิ่งใดให้เสือตัวดังกล่าวเกิดความกังวล ป้องกันการย้อนกลับเข้าชุมชน

สำหรับ "วิจิตร" เป็นเสือวัยรุ่นต้องการหาบ้านอยู่ ยืนยันว่าไม่ได้รับบาดเจ็บ ไม่ได้ถูกกดดันจากชุมชน ไม่ได้หิว และไม่ได้มีพฤติกรรมทำร้ายมนุษย์ จึงขอให้ชาวบ้านเข้าใจว่า เสือวิจิตรเดินสำรวจเพื่อหาที่อยู่ใหม่เท่านั้น ไม่ได้มุ่งทำร้ายใคร
เสือวัยรุ่นได้ไปเที่ยวที่ใหม่ ๆ อยากรู้อยากเห็น ไม่ได้มุ่งทำร้ายคน หรือสร้างปัญหาให้ใคร อยากให้ชาวบ้านเข้าใจ หากทำร้ายเขาโดยไม่ตั้งใจ จะสร้างแรงกดดันให้เขาได้
ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่12 กล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาวางแผน เฝ้าระวัง พร้อมลาดตระเวนทำความเข้าใจกับชาวบ้านตลอดช่วงเย็นจนถึงรุ่งเช้า ปกป้องทั้งชุมชนและเสือวิจิตรให้ปลอดภัย

ทั้งนี้ หากไทยจะฟื้นฟูประชากรเสือโคร่งให้ได้ตามพันธะสัญญาในเวทีโลก เชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้อีก จึงต้องสร้างความเข้าใจกับชุมชน เพื่อให้เกิดการยอมรับและอยู่ร่วมกันได้
ถ้าเรารู้ว่าเขาออกมาจากป่า ขอให้ระวังสัตว์เลี้ยง ปศุสัตว์ ไม่ออกไปเดินยามค่ำคืน อยากให้อยู่ร่วมกันได้ภายใต้ความเข้าใจ ไม่ใช่ภายใต้ความหวาดกลัว
อ่านที่เกี่ยวข้อง
สัญญาณดี! พบพิกัดล่าสุด “เสือวิจิตร” ขยับใกล้แนวป่า
วอนอย่าสร้างภาพลบ "เสือวิจิตร" อุทยานฯ เร่งค้นหา หวั่นถูกฆ่า
ชาวบ้านกังวล “เสือวิจิตร” ไม่กล้าออกกรีดยางสูญรายได้วันละ 2,000 บาท
แท็กที่เกี่ยวข้อง: