วันนี้ (27 ธ.ค.2564) พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) แถลงข่าวความคืบหน้าสถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ในประเทศไทย โดยระบุว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอนจากการรายงานเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมาจำนวน 205 คน ล่าสุดวันนี้ พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าวรวม 514 คน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด และพบการติดเชื้อ 2 ใน 3 คน จากการเดินทางเข้าประเทศ และ พบจำนวน 1 ใน 3 เป็นการติดเชื้อจากผู้ที่เดินทางเข้ามาในไทย

ขณะที่คลัสเตอร์หลักยังคงเป็น คลัสเตอร์กาฬสินธุ์ ที่เป็นคู่สามี-ภรรยา ซึ่งเดินทางมาจากประเทศเบลเยียม และเดินทางถึงไทยเมื่อต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา และจากการมีประวัติไปรับประทานอาหารที่ผับในตลาดโรงสี เขตเทศบาลเมืองจังหวัดกาฬสินธุ์ ทำให้นักดนตรี พนักงานในร้านและลูกค้า ติดเชื้อโควิด-19 โดยยืนยันผลเป็นโอมิครอน 125 คน ขณะที่อีก 97 คน อยู่ระหว่างรอผลยืนยันว่าเป็นสายพันธุ์โอมิครอนหรือไม่

นอกจากนี้ คลัสเตอร์กาฬสินธุ์ ยังมีความเกี่ยวโยงกับคลัสเตอร์ จ.อุดรธานี เนื่องจากรายแรกเป็นครอบครัวมีบ้านอยู่ที่ จ.อุดรธานี และจาก 1 คน ติดเชื้อไปยังผู้สัมผัสใกล้ชิดของเคสแรก โดยขณะนี้ จ.อุดรธานี มีผู้ติดเชื้อ 6 คน จ.ลำพูน 4 คน ซึ่งเป็นการสัมผัสเคสยืนยันจากคลัสเตอร์กาฬสินธุ์
นอกจากนี้ยังมีคลัสเตอร์ของปัตตานีจำนวน 7 คน ซึ่งสัมผัสผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับจากแสวงบุญประเทศแถบตะวันออกกลาง และคลัสเตอร์ของกลุ่มผู้แสวงบุญยังมีรายงานพบผู้ติดเชื้อใน กรุงเทพฯ นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ทั้งหมดอยู่ระหว่างยืนยันว่า เป็น สายพันธุ์โอมิครอนหรือไม่ โดยยืนยันแล้ว 2 คน ในกรุงเทพฯ ติดเชื้อจากสามีซึ่งเป็นนักบินชาวไนจีเรีย
จ.ภูเก็ต และ กระบี่ 2 คน เป็นแม่บ้านซึ่งทำงานในโรงแรมที่ผู้ติดเชื้อพักอาศัย ขณะที่ คลัสเตอร์กาฬสินธุ์ มีรายงานไปที่ จ.ขอนแก่น และ จ.มหาสารคาม ขณะที่ คลัสเตอร์สุรินทร์ เป็นผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อรายแรกที่เดินทางจากประเทศเดนมาร์ก
พญ.อภิสมัย ยังระบุว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กขอให้บุคลากรทางการแพทย์ไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เข็มที่ 4 เพื่อปกป้องระบบสาธารณสุขเพื่อป้องกันการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน รวมถึงประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคเรื้อรังก็ควรที่จะฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 ด้วยเช่นกัน
ขณะที่ สถานบันเทิงพบผู้ติดเชื้อเยอะขึ้น โดยเฉพาะในหลายสถานที่ที่มีการลักลอบจำหน่ายแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งขอความร่วมมือให้สมาคมผู้ประกอบการสถานบันเทิง และผู้ประกอบการร่วมกันกวดขันและป้องกันการลักลอบจำหน่ายแอลกอฮอล์ ทั้งนี้หากพบว่า ผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข และทำให้เกิดการติดเชื้อ อาจมีการเสนอให้ปิดหรือล็อกในบางจุด ซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบต่อร้านอื่น ๆ ด้วยจึงขอให้ร่วมกันตรวจสอบดูแล
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
คลัสเตอร์ "สามี-ภรรยา" กาฬสินธุ์ ติดโควิดแล้ว 154 คน
สธ.เร่งคุมโอมิครอน รับมีเล็ดลอดจากระบบ
เปิดฉากทัศน์ "โควิด" หลังปีใหม่ตัวเลขแตะ 30,000 คนต่อวัน
9 วัน "โอมิครอน" บุกไทย 14 จังหวัด ติดเชื้อสะสม 514 คน