เฮลิคอปเตอร์ทหารเมียนมา บินโจมตีฐานที่มั่น "เคเอ็นยู"

ภูมิภาค
27 ธ.ค. 64
18:48
415
Logo Thai PBS
เฮลิคอปเตอร์ทหารเมียนมา บินโจมตีฐานที่มั่น "เคเอ็นยู"
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ ของทหารเมียนมา โจมตีทางอากาศฐานที่มั่น และหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงฝั่งตรงข้ามชายแดนแม่สอด เบื้องต้น ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนื่องจากชาวบ้านอพยพหนีภัยเข้ามาในไทยก่อนแล้ว

วันนี้ (27 ธ.ค.2564) เฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ ของทหารเมียนมา เข้าโจมตีทางอากาศ ฐานที่มั่นทหารกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ เคเอ็นยู และชุมชนชาวกะเหรี่ยงที่บ้านโซซิเมี่ยน ตรงข้ามบ้านแม่กุใหม่ท่าซุง ต.แม่กุ อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เบื้องต้น ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เพราะต่างหนีภัยการสู้รบเข้ามาในเขตไทยก่อนหน้านี้แล้ว


การสู้รบระหว่างทหารกองกำลังเคเอ็นยู กองพลน้อยที่ 6 กับทหารรัฐบาลเมียนมา ยังเกิดขึ้นที่ฐานที่มั่นแม่วาคี ตรงข้ามบ้านดอนชัย ต.แม่ตาว อ.แม่สอด ซึ่งทหารเมียนมาเข้ายึดพื้นที่ได้เมื่อวานนี้ โดยมีการปะทะอย่างหนักช่วงเช้าที่ผ่านมา ทำให้มีทหาร เคเอ็นยู และกองกำลัง พีดีเอฟเสียชีวิต 2 นาย และบาดเจ็บจำนวนมาก


มีรายงานว่า ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเมียนมาพยายามนำผู้ได้รับบาดเจ็บข้ามแม่น้ำเมยมายังเขตไทย เพื่อนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลแม่สอด โดยผ่านทางพลเรือนกะเหรี่ยงในพื้นที่ เพราะฝ่ายทหารไม่สามารถข้ามมาได้

ทั้งนี้ ศูนย์สั่งการชายแดนไทย - เมียนมา สรุปสถานการณ์ชายแดนพื้นที่ จ.ตาก ในวันนี้ว่า การสู้รบไม่ส่งผลกระทบต่อราษฎรไทยตามแนวชายแดน และมีผู้หนีภัยจำนวน 3,776 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 5 แห่งในพื้นที่ ต.แม่ตาว แม่กุ และมหาวัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ไทยให้การดูแลเป็นอย่างดี พร้อมทั้งมีมาตรการป้องกันการระบาดของโรค COVID-19 ด้วย

 

นานาชาติกดดันหลังกองทัพเมียนมาใช้ความรุนแรง

กองทัพเมียนมาเปิดปฏิบัติการโจมตีหลายพื้นที่ ความโหดร้ายและความสิ้นหวังในเมียนมาสะท้อนให้เห็นได้จากภาพการ์ตูนที่ถูกส่งต่อกันบนสื่อสังคมออนไลน์ 

การต่อสู้ระหว่างกองทัพเมียนมากับกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์และกองกำลังพิทักษ์ประชาชนมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น จุดที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก คือ รัฐกะเหรี่ยงและรัฐกะยาทางภาคตะวันออกของเมียนมาใกล้กับพรมแดนไทย ขณะเดียวกันกองกำลังป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยงเผยแพร่ภาพรถบรรทุกและรถยนต์ถูกเผาบนทางหลวงสายหนึ่งในรัฐกะยาด้วย


องค์การช่วยเหลือเด็ก Save the Children รายงานว่า ชาวบ้านถูกสังหารและนำศพไปเผาอย่างน้อย 35 คน ส่วนเจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรม 2 คนยังคงสูญหายไป หลังจากรถยนต์ส่วนตัวถูกโจมตีในพื้นที่บริเวณดังกล่าว ขณะที่การโจมตีทางอากาศหมู่บ้านเล เก กอ ในรัฐกะเหรี่ยงส่งผลให้ผู้ลี้ภัยหลายพันคนข้ามฝั่งเข้ามาในไทย 

รองเลขาธิการสหประชาชาติด้านกิจการมนุษยธรรม ออกแถลงการณ์ประณามความรุนแรงตลอดช่วงสุดสัปดาห์ เนื่องจากการใช้ความรุนแรงของกองทัพเมียนมาถือเป็นความผิดตามกฎหมายด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ พร้อมเรียกร้องให้เมียนมา เร่งเปิดการสืบสวนอย่างรอบด้านและโปร่งใส เพื่อลงโทษผู้กระทำความผิด

ภาพความรุนแรงกับสงครามจิตวิทยากองทัพ

ข้อเรียกร้องของสหประชาชาติอาจไม่มีพลังมากเพียงพอในการสร้างแรงกดดันให้กองทัพเมียนมาเปลี่ยนท่าที ขณะที่ภาพความรุนแรงที่ปรากฏบนหน้าสื่อหลายสำนักทั่วโลกเป็นเครื่องมือในการทำสงครามจิตวิทยาของกองทัพ

ผศ.ฐิติวุฒิ บุญยวงศ์วิวัชร นักวิจัยโครงการศึกษาความขัดแย้งทางด้านชาติพันธุ์ จ.เชียงใหม่ ระบุว่า การเผาศพ หรือการทรมานศพด้วยวิธีการต่าง ๆ เป็นปฏิบัติการทางด้านจิตวิทยาในสงครามกลางเมือง และคนได้รับผลกระทบจริง ๆ คือพลเมือง ช่วงหลังกองทัพเมียนมาเริ่มปรับยุทธวิธีที่สำคัญ โดยพยายามไม่เปิดศึกหลายด้าน และเลือกพื้นที่ที่มีความสำคัญทางด้านสัญลักษณ์หรือยุทธศาสตร์มากที่สุด


อย่างไรก็ตาม พื้นที่สู้รบในรัฐกะเหรี่ยงส่งผลให้ปัญหาคลื่นผู้ลี้ภัยความขัดแย้งกลายเป็นโจทย์ใหญ่ของไทยอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดย ผศ.ดุลยภาค ปรีชารัชช รอง ผอ.สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ระบุว่า ไทยและเมียนมาจะต้องใช้กลไกระดับทวิภาคีมากขึ้น เพราะการต่อสู้ชายแดนหนีไม่พ้นการเปิดพื้นที่เพื่อเจรจาจากตัวแทนของทุกฝ่าย เพื่อจัดระเบียบความมั่นคงตามแนวชายแดนร่วมกัน ซึ่งทำให้ไทยไม่สามารถไปกดดันรัฐบาลเมียนมาได้ เหมือนรัฐในภาคพื้นสมุทรของอาเซียนที่ไม่มีอาณาเขต ข้อพิพาท หรือต้องแบกรับผู้หนีภัยจากการสู้รบเท่ากับไทย

ทั้งนี้ สิ่งที่น่าจับตามองต่อไปคือบทบาทของกัมพูชาในฐานะประธานอาเซียนกับการแก้ปัญหาความไม่สงบในเมียนมา

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง