ศบค.จับตา "ร้านอาหาร-ร้านเหล้า-งานพิธีกรรม" ต้นตอคลัสเตอร์

สังคม
14 ม.ค. 65
13:45
2,099
Logo Thai PBS
ศบค.จับตา "ร้านอาหาร-ร้านเหล้า-งานพิธีกรรม" ต้นตอคลัสเตอร์
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"พญ.อภิสมัย" ระบุยังพบคนโควิด-19 จากคลัสเตอร์สถานบันเทิง-งานพิธีกรรม พร้อมขอให้ประชาชนฉีดวัคซีนเข็ม 3 ตามกำหนด ย้ำแอสตราเซเนกา-ไฟเซอร์กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูงไม่ต่างกัน

วันนี้ (14 ม.ค.2565) พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นคลัสเตอร์ว่า ส่วนใหญ่เป็นคลัสเตอร์ร้านอาหาร ซึ่งมีหลายจังหวัด ขณะที่บางจังหวัดเป็นคลัสเตอร์จากร้านเหล้า ถือเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ยังไม่ให้สถานบันเทิงเปิดให้บริการ

แม้สถานบันเทิงหลายแห่งจะพยายามควบคุมการแพร่ระบาด เพื่อให้กลับมาเปิดบริการได้ ทั้งการตรวจ ATK ผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการก่อนเข้าร้าน แต่ยังไม่ทันที่สถานบันเทิงจะเปิดได้ ก็มีการลักลอบเปิดและเกิดการแพร่ระบาดเป็นคลัสเตอร์ จึงทำให้การพิจารณาเปิดสถานบันเทิงต้องชะลอไป

ขณะที่คลัสเตอร์จากพิธีกรรมต่างๆ เช่น งานบวช งานบุญ งานแต่งงาน ยังพบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการสำรวจของกรมควบคุมโรค พบว่า นอกจากมีการชุมนุมพบปะกันแล้ว ยังมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญ 2 ประการ คือ มีการรับประทานอาหารร่วมกัน และมีการเดินทางข้ามพื้นที่เพื่อมาร่วมงาน เกิดการนำเข้าเชื้อและแพร่ระบาด ส่วนคลัสเตอร์ในโรงงานและสถานประกอบการ ยังพบแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องหลังปีใหม่

ขณะที่วันนี้ (14 ม.ค.) จังหวัดที่มีการรายงานผู้ติดเชื้อสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ ชลบุรี กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ภูเก็ต นนทบุรี ขอนแก่น อุบลราชธานี ปทุมธานี เชียงใหม่ และสมุทรสาคร

วัคซีนเข็ม 3 "แอสตราฯ-ไฟเซอร์" กระตุ้นภูมิสูงไม่ต่างกัน

นอกจากนี้ พญ.อภิสมัย ยังขอให้ประชาชนที่ถึงกำหนดเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เข้ารับการฉีดตามแผน ซึ่งกรมควบคุมโรคได้เน้นย้ำว่า วัคซีนทุกยี่ห้อมีประสิทธิภาพสูง 90-100% ในการป้องกันอาการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิต

คนที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว จากการรายงานพบว่า เมื่อเวลาผ่านไปภูมิคุมกันอาจลดลงได้ และเมื่อมีการฉีดต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นเข้ม 3 จากการรายงานของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พบว่า ภูมิคุ้มกันจะสูงขึ้นและสามารถช่วยควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การกระตุ้นวัคซีนเข็ม 3 ไม่ว่าจะเป็นแอสตราเซเนกา หรือไฟเซอร์ การศึกษาของกระทรวงสาธารณสุขพบว่า ให้ผลกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูงไม่แตกต่างกัน

จากการศึกษาคลัสเตอร์ใน จ.กาฬสินธุ์ พบว่าการกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีนเข็ม 3 ทั้งแอสตราเซเนกา และไฟเซอร์ มีผลการทดลองป้องกันสายพันธุ์ "โอมิครอน" ได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้ง 2 ยี่ห้อ 80-90% จึงนำไปสู่นโยบายที่ สธ.เน้นย้ำเรื่องการให้วัคซีนเข็มกระตุ้นในต้นเดือน ม.ค.นี้

อ่านข่าว : สูตรแนะนำวัคซีนเข็ม 3 เข็ม 4 ฉีดอะไร-ห่างกี่เดือน?

อ่านข่าวอื่นๆ

เตือนเอาตัวเสี่ยงติดโควิดหวังเคลมประกัน ไม่คุ้มภาวะ "ลอง โควิด"

กทม.เปิดสายด่วนโควิด 50 เขต ประสานช่วยเหลือ-เข้าสู่ระบบรักษา

เปิดผลวิจัยกระตุ้นเข็ม 3 "ไฟเซอร์" ภูมิคุ้มกันเดลตา-โอมิครอนสูง

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง