พร้อมจ่ายภาษี! นศ.อินโดฯ ขาย NFT รูปเซลฟี่ กวาดรายได้ 32 ล้านบาท

ต่างประเทศ
18 ม.ค. 65
08:23
1,874
Logo Thai PBS
พร้อมจ่ายภาษี! นศ.อินโดฯ ขาย NFT รูปเซลฟี่ กวาดรายได้ 32 ล้านบาท
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
นักศึกษาชาวอินโดนีเซีย เปลี่ยนภาพถ่ายเซลฟี่ของตัวเองให้กลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ด้วยการขาย NFT กวาดยอดขายไปได้แล้วกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 32 ล้านบาท

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า Ghozali Ghozalu นักศึกษาชาวอินโดนีเซีย คณะวิทยาการคอมพิวเตอร์ กลายเป็นคนดังบนสื่อสังคมออนไลน์ หลังเขาเปลี่ยนภาพถ่ายเซลฟี่ของตัวเองให้กลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ด้วยการขายภาพเหล่านั้นเป็น NFT ล่าสุด เขากวาดยอดขายไปได้แล้วกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 32 ล้านบาท

Ghozali Ghozalu ถ่ายเซลฟี่หน้าคอมพิวเตอร์เกือบ 1,000 ภาพ ตลอดระยะเวลา 5 ปี เพื่อสร้างเป็นวิดีโอสำหรับงานรับปริญญาของเขา แต่หลังจากเรียนรู้เกี่ยวกับ Blockchain แล้ว หนุ่มวัย 22 ปีคนนี้ก็ได้ตัดสินใจอัปโหลดภาพของตัวเองไปยังแพลตฟอร์มซื้อขาย NFT ภายใต้ชื่อ “Ghozali Everyday”

 

ผมไม่เคยคิดว่าจะมีใครซื้อภาพเซลฟี่ของผม ผมจึงตั้งราคาพวกมันไว้ที่ 3 เหรียญสหรัฐฯ เท่านั้น

วงการ NFT ได้เปลี่ยนภาพประกอบไปจนถึงมีมต่าง ๆ ให้กลายเป็นไอเท็มของนักสะสมเสมือนจริงที่ไม่สามารถทำซ้ำได้ เช่นเดียวกับภาพเซลฟี่ของ Ghozali Ghozalu ที่เริ่มอัปโหลดภาพเซลฟี่ของเขาตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งเชฟชื่อดังคนหนึ่งได้ถ่ายรูปและโปรโมตภาพเซลฟี่ของ Ghozali Ghozalu บนโซเชียลมีเดีย ทำให้เขาเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วยเอกลัษณ์สีหน้าไร้อารมณ์จากภาพของเขา

บอกตามตรง ผมยังไม่กล้าบอกพ่อกับแม่ของผม พวกเขายังคงสงสัยอยู่ว่าผมหาเงินมาจากไหน 

Ghozali Ghozalu ให้สัมภาษณ์พร้อมเสียงหัวเราะ นักศึกษาชาวอินโดนีเซียคนนี้มีความฝันอยากเปิดสตูดิโอแอนิเมชันเป็นของตัวเองในวันใดวันหนึ่ง โดยเขาวางแผนว่าจะใช้เงินที่ได้จากการข่ายภาพเซลฟี่ NFT นี้ มาลงทุนหลังจากที่เรียนจบมหาวิทยาลัย

ล่าสุด กรมสรรพากรอินโดนีเซีย ได้ทวีตข้อความแสดงความยินดีถึง Ghozali Ghozalu พร้อมกับแนบลิงก์รายละเอียดเกี่ยวกับการจ่ายภาษีและช่องทางการติดต่อให้กับเขา

 
ขณะที่ Ghozali Ghozalu ได้มาตอบกลับทวีตนั้นว่า "นี่จะเป็นการจ่ายภาษาครั้งแรกในชีวิตของผม แน่นอน ผมจะจ่ายอยู่แล้ว เพราะผมเป็นพลเมืองที่ดีของอินโดนีเซีย"

 

ที่มา : South China Morning Post

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง