แนะวิธีดูแลแผลไฟไหม้ แพทย์ชี้ไม่ควรทายาสีฟัน-ไข่ขาว-น้ำปลา

สังคม
10 ก.พ. 65
07:08
1,425
Logo Thai PBS
แนะวิธีดูแลแผลไฟไหม้ แพทย์ชี้ไม่ควรทายาสีฟัน-ไข่ขาว-น้ำปลา
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมการแพทย์ เปิดวิธีปฐมพยาบาลบาดแผลไฟไหม้อย่างถูกต้อง-เหมาะสม ไม่ควรใช้ยาสีฟัน ไข่ขาว น้ำปลา ชี้เพิ่มโอกาสการติดเชื้อที่บาดแผลได้ แนะผู้บาดเจ็บควรรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด

วันที่ 10 ก.พ.2565 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากข่าวกรณีหญิงอายุ 28 ปี ถูกไฟลุกไหม้ทั่วตัว หลังจากใช้สเปย์แอลกอฮอล์ฉีดพ่นฆ่าเชื้อตามตัว แล้วแอลกอฮอล์เกิดติดไฟลุกไหม้ และพบว่า ร่างกายถูกไฟไหม้มากกว่า 60% และเป็นแผลพุพองนั้น

ทั้งนี้ การใช้แอลกอฮอล์ฉีดพ่นตามเสื้อผ้า สิ่งของ หรือฉีดบริเวณผิวหนัง ต้องมีความระมัดระวังในการใช้ เนื่องจากแอลกอฮอล์เป็นวัตถุไวไฟ หากยังไม่แห้ง หรือระเหยจะทำให้สามารถติดไฟได้ง่าย การเกิดบาดแผลจากไฟไหม้ แผลพุพอง น้ำร้อนลวก บริเวณผิวหนัง ส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ๆ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วผิวหนังจะมีหน้าที่สำคัญในการปกป้องร่างกายจากเชื้อโรค สารเคมี รังสีต่าง ๆ รวมถึงมีส่วนในการควบคุมความชื้นและอุณหภูมิของร่างกาย มีเส้นประสาทรับความรู้สึกอยู่เป็นจำนวนมาก

ไฟไหม้-น้ำร้อนลวก 3 ระดับ

สำหรับบาดแผลจากไฟไหม้ หรือน้ำร้อนลวกที่บริเวณผิวหนัง สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับ ตามความลึกของบาดแผล คือ แผลลึกระดับที่ 1 (First-degree burn) การบาดเจ็บอยู่เฉพาะที่ชั้นหนังกำพร้า เป็นชั้นผิวหนังส่วนตื้น แผลอาจมีลักษณะคล้ายผิวหนังไหม้จากการโดนแสงแดดจัด อาการที่พบ เจ็บแสบ แดง และแห้ง ไม่มีลักษณะของตุ่มน้ำให้เห็น หายได้เองภายใน 7 - 14 วัน, แผลลึกระดับที่ 2 (Second-degree burn) การบาดเจ็บลงลึกถึงชั้นหนังแท้ อาการขึ้นอยู่กับความลึกที่ได้รับบาดเจ็บ มักพบตุ่มน้ำ แผลถลอกร่วมด้วย การหายของแผลอาจใช้เวลามากกว่าสองสัปดาห์และมีโอกาสเกิดแผลเป็นหรือสีผิวผิดปกติตามมา, แผลลึกระดับที่ 3 (Third-degree burn หรือ Full-Thickness burn) ผิวหนังทุกชั้นถูกทำลายด้วยความร้อน แผลมีลักษณะแห้งแข็ง ไม่ยืดหยุ่น แผลชนิดนี้มักไม่หายเอง ต้องได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้อง มีโอกาสเกิดการหดรั้ง หรือแผลเป็นนูนตามมาได้ค่อนข้างมาก

แนะวิธีปฐมพยาบาล

พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับบาดแผลไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก คือ ออกจากแหล่งความร้อนโดยเร็วที่สุด รวมถึงกำจัดแหล่งความร้อนที่จะทำให้บาดแผลลุกลามมากขึ้น เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับที่อยู่บริเวณแผล, ล้างบาดแผลด้วยน้ำสะอาดที่อุณหภูมิปกติ เพื่อลดความร้อนและทำให้แผลเย็นลง, กรณีมีบาดแผลถลอก มีตุ่มน้ำ สีของผิวหนังเปลี่ยนแปลง มีบาดแผลลึก หรือมีแผลไหม้เป็นบริเวณกว้าง สามารถปิดแผลด้วยผ้าก๊อซ หรือผ้าสะอาด และให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน, ไม่ควรทาหรือใช้สารอื่น ๆ ทาลงบนบาดแผล เช่น ยาสีฟัน ไข่ขาว น้ำปลา เนื่องจากอาจเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อที่บาดแผลได้

ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก เป็นปัญหาที่ควรได้รับการดูแลอย่างรวดเร็วและถูกต้องตั้งแต่ระยะก่อนมาพบแพทย์ เพื่อลดโอกาสในการลุกลามของบาดแผลและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงรวมถึงเกิดการติดเชื้อผิวหนังจากบาดแผลไฟไหม้ที่เกิดขึ้นได้ นอกจากปัญหาเรื่องบาดแผลที่ต้องได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมแล้ว ผู้ป่วยยังมีโอกาสเกิดปัญหาอื่น ๆ เช่น การสูญเสียน้ำและเกลือแร่ของร่างกาย การติดเชื้อ และการสูดดมควันไฟ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องรีบไปพบแพทย์โดยด่วน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง