วันนี้ (20 มี.ค.2565) สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ส่งจดหมายด่วนที่สุดถึง อธิบดีกรมการค้าภายใน และ สำเนาถึง ปลัดกระทรวงพาณิชย์ รมว.พาณิชย์ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้พิจารณาทบทวนนโยบายส่งออกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และกากถั่วเหลืองไปยังต่างประเทศ
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ระบุว่า ไทยพึ่งพิงการนำเข้าถั่วเหลืองและกากถั่วเหลืองจากต่างประเทศกว่าร้อยละ 95 และยังต้องนำเข้าวัตถุดิบอื่นมาเสริมส่วนที่ขาดจากข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อีกจำนวนมาก
แต่ภาครัฐยังคงนโยบายอนุญาตให้ส่งออกข้าวโพดได้อย่างเสรี และส่งออกกากถั่วเหลืองได้ร้อยละ 20 ของกำลังการผลิตของโรงสกัดน้ำมันถั่วเหลือง ทั้งที่ผลผลิตเหล่านี้ขาดแคลน ขณะเดียวกันการอนุญาตให้ส่งออกกากถั่วเหลือง ขัดแย้งกับข้อตกลงที่ร้องขอให้โรงงานอาหารสัตว์ทำสัญญารับซื้อกากถั่วเหลืองภายในประเทศก่อน
สมาคมฯ จึงมองว่าไม่เป็นธรรมต่อผู้ผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งเมื่อตรวจสอบตัวเลขปริมาณการส่งออกวัตถุดิบทั้ง 2 รายการ จากกรมศุลกากรพบว่าในปี 2564 มีการส่งออกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กว่า 93,615 ตัน เฉพาะช่วงเดือน พ.ย. และ ธ.ค. ส่งออกรวมกันถึง 65,930 ตัน และในส่วนของกากถั่วเหลืองตลอดปี 2564 มีการส่งออกถึง 103,091 ตัน
นายพรศิลป์ กล่าวว่า หากยังคงนโยบายนี้อยู่จะส่งผลต่อราคาขายภายในประเทศ โดยเฉพาะในช่วงเวลาวิกฤตที่ไม่สามารถนำเข้าวัตถุดิบได้อย่างปกติ ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และกากถั่วเหลืองจะยิ่งแพงขึ้นไปอีก จึงขอให้ภาครัฐพิจารณาระงับการส่งออกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และกากถั่วเหลืองเป็นการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์วิกฤตจะคลี่คลายลง
และแม้มติประชุมคณะแนวทางแก้ไขปัญหาวัตถุดิบอาหารสัตว์ เมื่อวันที่ 15 มี.ค. เห็นชอบในหลักการให้ยกเลิกมาตรการซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ 3 ส่วน นำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน เป็นการชั่วคราว ถึงสิ้นเดือน ก.ค. แต่ก็ไม่สามารถการันตีได้ว่า ผู้ประกอบการจะหาวัตถุดิบนำเข้ามาได้ เพราะปัญหาสงครามทำให้ผู้ผลิตวัตถุดิบ เช่น ฮังการี อียิปต์ อินโดนีเซีย อาร์เจนตินา ประกาศนโยบายห้ามส่งออกธัญพืชสำคัญ เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารในประเทศ
นอกจากนี้เคยมีการร้องเรียนให้ภาครัฐตรวจสต็อกวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ผู้ค้าคนกลางเพราะผู้ผลิตอาหารสัตว์ไม่สามารถจัดซื้อวัตถุดิบได้ แต่ภาครัฐกลับตรวจสต็อกของโรงงานเสียเอง ซึ่งไม่เป็นประโยชน์เพราะตามระเบียบต้องแจ้งให้กรมการค้าภายในทุก10 วันอยู่แล้ว จึงเป็นการบรรเทาปัญหาที่ไม่ถูกจุด
แท็กที่เกี่ยวข้อง: