เหลืออีกเพียง 4 วันเท่านั้น ก่อนจะถึงวันเปิดรับสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 31 มี.ค.นี้ ยังไม่ทันรับสมัคร แต่สัญญาณการต่อสู้แข่งขันของพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองต่างๆ ในสนามเลือกตั้ง กทม. ก็เริ่มเข้มข้นขึ้น
หลังจากชาวกรุงเทพว่างเว้นจากการเลือกตั้งผู้ว่าฯ มาเกือบ 9 ปี ขณะที่ผู้เสนอตัวท้าชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ ก็มีทั้งนักวิชาการ นักการเมือง และนักเคลื่อนไหวทางสังคมที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก
เปิดรับสมัครชิงผู้ว่าฯ 31 มี.ค.นี้เปิดตัวแล้ว 8 คน
ขณะที่การเปิดรับสมัครผู้ท้าชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.วันแรก ในวันที่ 31 มี.ค.นี้ ขณะนี้มีผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.แล้วทั้งหมด 8 คน ลงในนามพรรค 4 คน และในนามอิสระอีก 4 คน ส่วนว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.มีทั้งหมด 6 กลุ่ม จาก 5 พรรคการเมืองแล้ว ยังไม่รวมพรรคกล้า ที่ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ และปฏิเสธไม่ได้ว่า แนวนโยบายในการแก้ปัญหากรุงเทพฯ จะเป็นเครื่องมือสำคัญ ซึ่งว่าที่ผู้สมัคร จะใช้ในการช่วงชิงพื้นที่สื่อและคะแนนเสียงกว่า 4 ล้านเสียงในเมืองหลวง
ทั้งนี้ น.ต.ศิธา ทิวารี ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่า กทม. ในนามพรรคไทยสร้างไทย เตรียมจะแถลงนโยบาย พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคในวันที่ 30 มี.ค.นี้ โดยน.ต.ศิธา ย้ำว่า เแม้จะเปิดตัวช้ากว่าผู้สมัครท่านอื่น แต่เชื่อว่าไม่มีผล เพราะการช่วงชิงพื้นที่สื่อโดยเฉพาะใน โซเชียลมีเดียวัดกันเป็นวินาที

เทศกิจทยอยเก็บป้ายหาเสียงสนามกทม.
ช่วงนี้หลายคนที่นั่งรถไปตามถนนหนทาง จะเริ่มเห็นป้ายหาเสียงของบรรดาว่าที่ผู้สมัครผู้ว่า และ ส.ก. ตั้งแต่ กกต. มีประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่นของกรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา ในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค.นี้
แต่เมื่อช่วงสาย ที่ผ่านมาพบว่าบางเขตมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่เทศกิจไปเก็บป้ายหาเสียงทั้งหมดไว้ที่สำนักเขตก่อน ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่า คำสั่งนี้ครอบคลุมทุกเขตหรือไม่
จากการตรวจสอบ พบว่าหาก กกต.ออกประกาศให้มีการเลือกตั้งผู้ว่า กทม.และสมาชิก ส.ก. แล้วผู้สมัครจะต้องปฏิบัติตามประกาศคำสั่งของ กกต.ทันที เช่น ขนาดป้าย จำนวนป้าย สถานที่ติดป้าย หากมีป้ายใดที่ผิดไปจากคำสั่งของกกต. ก็จะเป็นเหตุให้สามารถร้องว่า มีการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งได้