จัดหายาโควิด-19 เพิ่มอีก 75 ล้านเม็ด สำรองใช้ช่วงสงกรานต์

สังคม
30 มี.ค. 65
09:45
311
Logo Thai PBS
จัดหายาโควิด-19 เพิ่มอีก 75 ล้านเม็ด สำรองใช้ช่วงสงกรานต์
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กระทรวงสาธารณสุข จัดหา "ยาฟาวิพิราเวียร์" และ "โมลนูพิราเวียร์" เพิ่มอีก 75 ล้านเม็ด รองรับสถานการณ์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ยืนยัน ยาฟาวิพิราเวียร์ ไม่ขาดแคลน สำรองทั่วประเทศ 25 ล้านเม็ด มีระบบรายงานการใช้ยาเพื่อจัดส่งยาเพิ่มเติมทุกสัปดาห์

วันนี้ (30 มี.ค.2565) ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานว่า ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 25,389 คน จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 25,342 คน ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 47 คน ผู้ป่วยสะสม 1,377,352 คน (ตั้งแต่ 1 ม.ค.65) หายป่วยกลับบ้าน 26,084 คน หายป่วยสะสม 1,162,876 คน (ตั้งแต่ 1 ม.ค.65) ผู้ป่วยกำลังรักษา 244,372 คน เสียชีวิต 87 คน  

จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,727 คน เฉลี่ยจังหวัดละ 22 คน อัตราครองเตียง ร้อยละ 28.7

 

จัดส่งยาเพิ่มเติมทุกสัปดาห์ ให้มีคงคลังสำหรับ 10 วัน

นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ไทยมีการใช้ยารักษาผู้ป่วยโควิด-19 หลายชนิด ทั้งยาฟ้าทะลายโจร ฟาวิพิราเวียร์ เรมดิซิเวียร์ และโมลนูพิราเวียร์ ล่าสุดมีการทำสัญญาจัดหายาแพกซ์โลวิดเข้ามาเพิ่มเติม โดยในส่วนของยาฟาวิพิราเวียร์ ข้อมูลวันที่ 28 มี.ค.2565 มียาคงคลังทั่วประเทศ 25 ล้านเม็ด อยู่ในส่วนกลาง 2.2 ล้านเม็ด ในโรงพยาบาลต่างๆ 22.8 ล้านเม็ด

เมื่อโรงพยาบาลใช้ยากับผู้ป่วยจะรายงานผ่านระบบออนไลน์ (VMI) เพื่อให้ส่วนกลางส่งยาเพิ่มเติมสำรองในคลังยาสำหรับใช้ประมาณ 10 วัน โดยมอบหมายให้องค์การเภสัชกรรมเป็นหน่วยจัดหายา อย่างไรก็ตาม ช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา บางพื้นที่มีผู้ป่วยสูงขึ้นและยังไม่ได้บันทึกข้อมูลการใช้ยาให้เป็นปัจจุบัน ทำให้ส่วนกลางไม่ทราบข้อมูลการใช้ยาจริงและไม่สามารถเติมยาได้ทัน แต่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสามารถบริหารจัดการยาระหว่างโรงพยาบาลภายในจังหวัดได้ และรายงานส่วนกลางเพื่อจัดส่งยาเพิ่มเติมทันที ยืนยันว่าไม่มีการขาดแคลนยา

นพ.ธงชัย กล่าวต่อว่า ช่วงวันที่ 1-28 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้กระจายยาฟาวิพิราเวียร์ไปแล้ว 72 ล้านเม็ด ขณะนี้มีอัตราการใช้ยาประมาณวันละ 2 ล้านเม็ด หรือ 14 ล้านเม็ดต่อสัปดาห์ ขณะที่องค์การเภสัชกรรมมีการจัดหาประมาณ 15-20 ล้านเม็ดต่อสัปดาห์ จึงอยู่ในระดับที่เพียงพอต่อการใช้

สำหรับแนวเวชปฏิบัติในการรักษาโควิด-19 ในขณะนี้ ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องได้รับยายาฟาวิพิราเวียร์ทุกคน ซึ่งที่ผ่านมา พบว่ามีการใช้ยารักษาตามอาการมากที่สุด 52% ใช้ยาฟ้าทะลายโจร 24% ส่วนยาฟาวิพิราเวียร์ใช้ 26% โดยแพทย์จะพิจารณาการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลเพื่อลดผลกระทบต่อตับหรือไต รวมถึงป้องกันปัญหาการดื้อยา

 

จัดหายารักษาโควิดอีก 75 ล้านเม็ด 

ภญ.ศิริกุล เมธีวีรังสรรค์ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งแผนความต้องการให้องค์การเภสัชกรรมจัดหายาฟาวิพิราเวียร์ จำนวน 110 ล้านเม็ด เมื่อปลายเดือนก.พ.2565 มีการจัดส่งแล้วจำนวน 80 ล้านเม็ด และกำลังทยอยส่งมอบอีก 30 ล้านเม็ดจนครบในช่วงกลางเดือน เม.ย.2565

อย่างไรก็ตาม ช่วงปลายเดือน มี.ค.2565 กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งแผนความต้องการยาฟาวิพิราเวียร์และโมลนูพิราเวียร์เพิ่มอีกจำนวน 75 ล้านเม็ด เพื่อรองรับสถานการณ์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่อาจจะมีผู้ติดเชื้อมากขึ้น โดยเบื้องต้นเป็นยาฟาวิพิราเวียร์จำนวน 50 ล้านเม็ด คาดว่าจะส่งมอบได้ในช่วงกลางเดือน เม.ย.นี้ จำนวน 30 ล้านเม็ด และช่วงปลายเดือน เม.ย. อีก 20 ล้านเม็ด

 

ส่วนอีก 25 ล้านเม็ดที่เหลืออยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเป็นยาโมลนูพิราเวียร์ทั้งหมดหรือไม่ โดยอยู่ระหว่างการหารือและต่อรองราคาก่อนแจ้งให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาจำนวนการจัดซื้อ เบื้องต้นบริษัทยืนยันว่าสามารถจัดส่งยาโมลนูพิราเวียร์ให้ได้ 10 ล้านเม็ดใน 2 สัปดาห์หลังทำสัญญาซื้อขาย

ทั้งนี้ องค์การเภสัชกรรมได้ดำเนินการจัดส่งยาตามการจัดสรรให้กับหน่วยบริการแม่ข่ายในแต่ละพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามแผนกระจายยาของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (PHEOC) เพื่อให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงยาอย่างเพียงพอ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง