รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหายูเครน สังหารหมู่พลเรือน

วันนี้ (4 เม.ย.2565) รัสเซียเปลี่ยนท่าทีปรับรูปแบบปฏิบัติการทางการทหารตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว โดนถอนกำลังออกจากหลายจุดรอบกรุงเคียฟ ทำให้ฝ่ายยูเครนเข้ายึดพื้นที่คืนได้ 

สำนักข่าวเผยแพร่ภาพในเมืองบูชา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ หลังกองกำลังฝ่ายยูเครนเข้าแทนที่กองทัพรัสเซียที่ถอนกำลังออกไป แสดงให้เห็นถึงผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ถูกทิ้งไว้ตามท้องถนน ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เพื่อนบ้านถูกสังหารโดยทหารรัสเซียระหว่างการเข้ายึดเมืองนานกว่าเดือน

 

ด้านสื่อตะวันตกบางสำนักรายงานว่า สาเหตุที่ร่างผู้เสียชีวิตตามท้องถนนยังไม่ถูกนำไปฝังหรือประกอบพิธี เนื่องจากเกรงว่าอาจมีกับระเบิดอยู่ในพื้นที่เป็นจำนวนมากจึงยังไม่มีการเข้าเก็บกู้

ขณะเดียวกันสำนักข่าวเอพี เผยภาพหลุมศพหมู่ในเมืองบูชา ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณลานหน้าโบสถ์ที่อยู่ใจกลางเมือง ผู้เสียชีวิตบางส่วนถูกฝังทั้งที่สวมเสื้อผ้าปกติ ขณะที่ทีมข่าวยังพบไม้กางเขนปักเหนือหลุมศพ โดยมีชื่อผู้เสียชีวิตหลายๆ คนเขียนเอาไว้รวมกันบนกางเขนอันเดียว

ผู้สื่อข่าวเอพี ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน ที่ดูเหมือนถูกยิงในระยะประชิดและสวมเสื้อผ้าชุดทั่วไปไม่ใช่ชุดทหาร โดยอย่างน้อย 2 คนที่ถูกมัดมือไพล่หลัง

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนำมาซึ่งเสียงวิจารณ์จากหลายฝ่าย ยกตัวอย่างรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ประณามรัสเซียว่าเลวร้ายยิ่งกว่า กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)

Dmytro Kuleba ซึ่งปฏิบัติภารกิจอยู่ในโปแลนด์ ยังระบุด้วยว่า จะเก็บรวบรวมหลักฐานและทำงานร่วมกับหน่วยงานสากลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อระบุตัวผู้กระทำผิดและนำตัวผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่ออาชญากรรมนี้มาลงโทษให้ได้

 

นานาชาติประณามเหตุสังหารหมู่เมืองบูชา

ด้านโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ระบุว่า การสังหารพลเรือนจัดเป็นอาชญากรรมสงคราม และต้องมีการสอบสวนการก่ออาชญากรรมของกองทัพรัสเซีย ตนขอเรียกร้องให้เปิดทางให้องค์กรระหว่างประเทศเช่นคณะกรรมการกาชาดสากลเข้าไปในพื้นที่เพื่อเก็บหลักฐานการฆ่าล้างเหล่านี้ และผู้ก่อเหตุจะต้องได้รับโทษ

ขณะที่บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ระบุว่า การโจมตีพลเรือนยูเครนในบูชาและเมืองอื่นๆ เป็นเรื่องชั่วร้าย และอังกฤษจะไม่หยุดจนกว่าเหยื่อจะได้รับความยุติธรรม

ด้านสำนักข่าว RT ของทางการรัสเซีย นำเสนอข่าวทางการรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาการสังหารหมู่ที่เมืองบูชา โดยระบุว่า เป็นข่าวปลอมเนื่องจากหลักฐานเหล่านี้เพิ่งจะปรากฏให้เห็นในวันที่ 4 หลังจากรัสเซียถอนทหาร

RT รายงานว่า กองทัพรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาการสังหารพลเรือนในบูชา และฝ่ายยูเครน สื่อตะวันตกบางสำนัก รวมถึงกลุ่มสิทธิมนุษยชนบางส่วนกุเรื่องขึ้นหลังจากรัสเซียถอนทหารออกจากเมืองแถบชานกรุงเคียฟ และเป็นการยั่วยุจากฝั่งยูเครนอีกครั้ง