การโจมตีฐานนิวเคลียร์อิหร่านโดยสหรัฐฯ ส่งสัญญาณอันน่าวิตกไปยังเกาหลีเหนือ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเตือน การกระทำนี้จะยิ่งเสริมความมุ่งมั่นของเปียงยางในการพัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์ให้เร็วยิ่งขึ้น และกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือทางทหารที่ลึกซึ้งกับรัสเซีย
ความขัดแย้งในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงเมื่ออิหร่านยิงขีปนาวุธใส่เทลอาวีฟและเยรูซาเล็ม อิสราเอลตอบโต้ด้วยการโจมตีฐานทัพและสนามบินในเตหะรานและเคอร์มานชาห์ อิหร่านขู่ปิดช่องแคบฮอร์มุซ ทำราคาน้ำมันพุ่ง 10% สร้างความวิตกต่อเศรษฐกิจโลกและภัยนิวเคลียร์
รัสเซียเปิดฉากโจมตีทางอากาศด้วยโดรนและขีปนาวุธครั้งใหญ่ทั่วยูเครน รวมถึงกรุงเคียฟ ส่งผลให้อาคารที่พักอาศัยได้รับความเสียหาย มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 3 คน การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังยูเครนใช้โดรนโจมตีฐานทัพอากาศลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซียและสะพานเคิร์ช
โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหา วลาดิเมียร์ ปูติน "เสียสติ" หลังรัสเซียโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่สุด ตั้งแต่เริ่มสงครามยูเครน ทั้งที่เพิ่งพูดคุยทางโทรศัพท์กันไม่นาน ขณะที่ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี วิจารณ์ "ความเงียบ" ของสหรัฐฯ เป็นเหตุให้ปูตินกล้าโจมตีมากขึ้น
หนึ่งในนโยบายกลาโหมสำคัญที่ผู้นำสหรัฐฯ พูดมาพักหนึ่งแล้ว "โกลเดน โดม" เพื่อปกป้องแผ่นดินอเมริกันจากการโจมตี ด้วยขีปนาวุธล้ำสมัย แม้จะมีเสียงวิจารณ์และคำถามตามมามากมาย แต่ทรัมป์ยังเดินหน้าโครงการนี้และเลือกแบบที่จะสร้าง และจะสร้างให้เสร็จก่อนหมดวาระปี 72
ภาพถ่ายดาวเทียมเปรียบเทียบให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินทหารรัสเซีย บนลานบินที่ฐานทัพอากาศในภูมิภาคมูร์มันสค์ (Murmansk) และอีร์คุตสค์ (Irkutsk) ในช่วงหลายวันและหลายสัปดาห์ ก่อนที่สนามบินเหล่านี้จะถูกยูเครนโจมตีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา รอยเตอร์ส ได้ภาพดังกล่าวมาจาก Capella Space ที่บันทึกเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ด้วยดาวเทียม Synthetic Aperture Radar (SAR) คือดาวเทียมที่ใช้เทคโนโลยีเรดาร์ขั้นสูงในการสร้างภาพสองมิติหรือสามมิติของวัตถุ เช่น ภูมิทัศน์ หรือพื้นผิวโลก ซึ่งสภาพอากาศ เช่น เมฆ หมอก ควัน หรือช่วงเวลากลางวันหรือกลางคืน จะไม่เป็นอุปสรรคต่อความคมชัด ช่วยให้ระบุรายละเอียดทางภูมิศาสตร์ขนาดเล็กได้ เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองยูเครน อ้างว่า โจมตีเครื่องบินรบรัสเซียได้ 41 ลำ ประเมินความเสียหายที่ 7,000 ล้านดอลลาร์ และระบุว่ารัสเซียสูญเสียเครื่องบินยุทธศาสตร์ที่ใช้ยิงขีปนาวุธร่อนในสนามบินหลัก ๆ ไปร้อยละ 34 รวมถึงเครื่องบินทิ้งระเบิด TU-22M3 และ TU-95
ท่ามกลางความขัดแย้งปะทุขึ้นในพื้นที่หลายจุดทั่วทุกมุมโลก พรมแดนของ “ฟินแลนด์-รัสเซีย” อาจก้าวขึ้นมาเป็นจุดตึงเครียดแห่งใหม่ ฟินแลนด์มีพรมแดนทางบกติดรัสเซียกว่า 1,340 กิโลเมตร ขึ้นแท่นพรมแดนยาวที่สุดในบรรดาประเทศสมาชิกนาโต 32 ประเทศ ฟินแลนด์สร้างรั้วสูง 4.5 เมตรเป็นระยะทาง 35 กิโลเมตรแรกเสร็จสิ้นลง เพื่อยกระดับการควบคุมผู้อพยพลักลอบข้ามพรมแดนผ่านป่าทึบ รั้วกั้นจะมีราวเหล็กสูง 3.5 เมตร และ ลวดหนามสูง 1 เมตรด้านบน และติดตั้งกล้อง เซนเซอร์ ลำโพง และไฟส่องสว่างไว้ตามรั้วด้วย ผู้บัญชาการหน่วยพิทักษ์พรมแดนตะวันออกเฉียงใต้ของฟินแลนด์คาดว่า โครงการก่อสร้างรั้วจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในช่วงปลายปี 2026 ฟินแลนด์และรัสเซียมีความสัมพันธ์อย่างสันติมานานหลาย 10 ปี จนกระทั่งฟินแลนด์เข้าเป็นสมาชิกลำดับที่ 31 ของนาโตเมื่อปี 2023 ท่ามกลางความกังวลถึงแนวโน้มภัยคุกคามความมั่นคงของชาติ หลังจากรัสเซียได้เปิดฉากรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบเมื่อปี 2022
ทั่วโลกกำลังจับตามองถึงบทบาทของ “วาติกัน” ในการยุติสงคราม หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยกหูหารือกับ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียนานกว่า 2 ชั่วโมง สำหรับวาติกัน มีสถานะนครรัฐขนาดเล็กที่สุดในโลก ทั้งพื้นที่และประชากร ด้วยพื้นที่ ไม่ถึง 1 ตารางกิโลเมตร และประชากรเพียง 882 คน โดยบทบาทการทูตของสันตะสำนักเกิดขึ้นในวิกฤตการณ์คิวบาปี 1962 เมื่อพระสันตะปาปายอห์นที่ 23 ทรงวิงวอนสันติภาพผ่านทางวิทยุ พระองค์ทรงส่งจดหมายถึงจอห์น เอฟ. เคนเนดีและนิกิตา ครุชชอฟจนมีส่วนให้ทั้ง 2 ฝ่ายถอยห่างจากปากเหวของสงครามนิวเคลียร์ ความสำเร็จการทูตอันโดดเด่นที่สุดในยุคพระสันตะปาปาฟรานซิสคือ การอำนวยความสะดวกการเจรจาของสหรัฐฯ กับคิวบาในปี 2014 และวาติกันยังเคยเชิญผู้นำคู่ขัดแย้งของซูดานใต้มาพบกันในปี 2019
นาทีแสงสว่างวาบไปทั่วทั้งท้องฟ้าเหนือกรุงเคียฟ พร้อมกับเสียงระเบิดดังสนั่นหลายต่อหลายครั้ง หลังจากรัสเซียโจมตียูเครนด้วยขีปนาวุธอย่างน้อย 70 ลูก โดรนอีกไม่ต่ำกว่า 145 ลำ ช่วงกลางดึกถึงเช้ามืดวันพฤหัสบดี (24 เม.ย. 68) ตามเวลาท้องถิ่น ถือเป็นการโจมตีใส่กรุงเคียฟครั้งใหญ่ที่สุดของปีนี้ ตัวเลขผู้เสียชีวิตในกรุงเคียฟเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 12 คน มีผู้บาดเจ็บอีก 90 คน และอาจพบผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเพิ่มอีกจากใต้ซากปรักหักพัง ขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หันกลับมาวิจารณ์วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียอีกครั้ง โดยระบุว่า ตนไม่พอใจที่รัสเซียโจมตีใส่กรุงเคียฟโดยไม่จำเป็นและไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และบอกกับปูตินให้หยุดได้แล้ว เพราะทุก ๆ สัปดาห์มีทหารสูญเสียชีวิตถึง 5,000 นาย พร้อมทั้งเรียกร้องให้ปูตินมาทำข้อตกลงสันติภาพกับสหรัฐฯ
ยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครนภายใน 24 ชั่วโมง เป็นหนึ่งในนโยบายต่างประเทศสำคัญของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แต่ผ่านมามากกว่า 2 เดือน กับการเดินเกมทางการทูตของสหรัฐฯ ด้วยการเดินสายคุยกับคู่ขัดแย้งทั้ง 2 ฝ่าย กลับไม่ได้ผลลัพธ์อะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันเลยสักอย่าง ทำให้ทรัมป์ ระบุว่า สหรัฐฯ จะเลิกพยายามช่วยยุติสงครามในยูเครน ถ้ารัสเซียหรือยูเครนยังเอาแต่ขัดขวางความพยายามดังกล่าว อย่างไรก็ตาม แม้สหรัฐฯ และยูเครนจะสามารถบรรลุข้อตกลง เรื่องการขุดเจาะแร่ธาตุ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีการลงนามภายในสัปดาห์นี้ แต่ถ้ารัสเซียยอมให้ผลประโยชน์อะไรบางให้กับสหรัฐฯ เช่นกัน เช่น แร่ธาตุในดินแดนยูเครนที่รัสเซียยึดครองอยู่ สหรัฐฯ จะเทไปทางไหน ซึ่งคำตอบก็คงเดากันได้ไม่ยากนัก
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์สื่อบนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน ระหว่างเดินทางกลับกรุงวอชิงตัน ดีซี โดยยอมรับว่า การโจมตียูเครนของรัสเซียเป็นเรื่องที่เลวร้าย พร้อมทั้งระบุว่าได้รับแจ้งว่ารัสเซียทำพลาด แต่ผู้นำสหรัฐอเมริกาไม่ได้ให้รายละเอียดใดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อผิดพลาดที่กล่าวถึง
รัสเซียยิงโดรนโจมตียูเครน 147 ลำในชั่วข้ามคืน พุ่งเป้าโจมตีหลายพื้นที่ของประเทศ โดยระบบป้องกันภัยทางอากาศทำลายโดรนไปได้ 97 ลำ และอีก 25 ลำ ถูกสกัดไม่ให้โจมตีเป้าหมาย ขณะที่มีรายงานผู้เสียชีวิตในกรุงเคียฟอย่างน้อย 3 คน ในจำนวนนี้มีเด็กอายุ 5 ขวบรวมอยู่ด้วย
00:00
00:00
