วันนี้ (23 มิ.ย.2568) ช่วงเช้าตามเวลาท้องถิ่นอิหร่านได้เปิดฉากยิงขีปนาวุธระลอกใหม่ใส่อิสราเอล ส่งผลให้ไซเรนเตือนภัยดังสนั่นในเทลอาวีฟ เยรูซาเลม ภาคเหนือ และภาคกลางของอิสราเอล กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) รายงานว่าสามารถสกัดขีปนาวุธได้บางส่วน โดยเสียงระเบิดที่ได้ยินมาจากการสกัดหรือขีปนาวุธที่ตกลงพื้น หน่วยฉุกเฉิน Magen David Adom และตำรวจพร้อมหน่วยกู้ระเบิดลงพื้นที่ทันทีเพื่อตรวจสอบจุดที่ขีปนาวุธตก ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายรุนแรง ทางการอิสราเอลอนุญาตให้ประชาชนออกจากที่หลบภัยในบางพื้นที่หลังสถานการณ์สงบชั่วคราว
ขณะที่กลางดึกที่ผ่านมา อิสราเอลตอบโต้ก่อนด้วยการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ โดยเครื่องบินรบกว่า 20 ลำถล่มเป้าหมายทหารในเมืองเคอร์มานชาห์ทางตะวันตกและกรุงเตหะราน เป้าหมายรวมถึงคลังเก็บและยิงขีปนาวุธ ระบบดาวเทียม และสถานีเรดาร์ IDF ยืนยันว่าทำลาย "สถานที่ปล่อยและเก็บขีปนาวุธภาคพื้นดินสู่พื้นดินที่มุ่งเป้าอิสราเอล"

นอกจากนี้ อิสราเอลโจมตีสนามบิน 6 แห่งทั่วอิหร่าน ทำลายเครื่องบินรบและเฮลิคอปเตอร์ 15 ลำ รวมถึง F-14, F-5 และ AH-1 พร้อมรันเวย์และที่พักใต้ดิน แม้โดรนอิสราเอล 1 ลำถูกยิงตก แต่ IDF ระบุว่าไม่มีข้อมูลรั่วไหล
การโจมตีก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. อิหร่านยิงขีปนาวุธและโดรน 9 ครั้ง รวมถึงขีปนาวุธ 25-30 ลูกที่โจมตี 4 เมืองในอิสราเอล โดยเฉพาะ รพ.โซโรกา ในเบียร์เชบา ทำให้บาดเจ็บกว่า 200 คน และเกิดความเสียหายรุนแรง อีกเหตุการณ์ในเมืองกอม อาคารที่พักถูกโจมตี มีผู้เสียชีวิต 2 คน รวมถึงเด็กวัย 16 ปี และบาดเจ็บ 4 คน
สหรัฐฯ เอี่ยวจุดไฟสงคราม ?
ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ อ้างว่าสหรัฐฯ ใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดโจมตีศูนย์นิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่าน ได้แก่ ฟอร์โดว์ นาทานซ์ และอิสฟาฮานจนย่อยยับ ขณะที่รัฐมนตรีกลาโหม พีท เฮกเซธ เรียกปฏิบัติการ "Midnight Hammer" ว่ากล้าหาญและยอดเยี่ยม แต่ยังไม่มีการยืนยันความเสียหายที่แน่ชัดจากสหรัฐฯ หรืออิสราเอล
การโจมตีนิวเคลียร์จุดชนวนให้กลุ่มหัวรุนแรงในอิหร่านเรียกร้องแก้แค้น สส.อามีร์ ฮุสเซน ซาเบตี กล่าวว่าสหรัฐฯ เริ่มสงครามแล้ว และต้องได้รับการตอบโต้หนักเพื่อรักษาการป้องปราม สส.ฮามิด ราซาอี เสนอโจมตีฐานสหรัฐฯ ในซาอุดีอาระเบีย ระบุว่านี่เป็นการรุกรานครั้งที่ 2 ของสหรัฐฯ สื่อ Kayhan Online ซึ่งใกล้ชิดผู้นำสูงสุด อยาตอลลาห์ อาลี คาเมเนอี เตือนว่าขีปนาวุธอิหร่านเล็งฐานสหรัฐฯ และทหารสหรัฐฯ จะต้องจ่ายราคาความบ้าคลั่งของทรัมป์
ผู้นำทหารอิหร่านแสดงจุดยืน "ไม่ยอมถอย"
พล.อ.อับดอลราฮิม มูซาวี ผู้บัญชาการสูงสุด กล่าวว่าสหรัฐฯ เปิดประตูสู่นรกด้วยการละเมิดอธิปไตย และอิหร่านจะสู้สุดกำลัง พล.อ.อามีร์ ฮาตามี ย้ำว่าจะต่อสู้ด้วยความกล้า โฆษกกองทัพ อิบราฮิม โซลฟากอรี ขู่ตอบโต้ด้วยปฏิบัติการ ร้ายแรงและคาดเดาไม่ได้ พร้อมระบุว่า
ทรัมป์เริ่มสงคราม แต่เราจะจบมัน
รัฐมนตรีต่างประเทศ อับบาส อาราคชี ระบุว่าอิหร่านมีตัวเลือกมากมาย รวมถึงโจมตีฐานสหรัฐฯ ในภูมิภาค หรือปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งขนส่งน้ำมัน 20 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ ร้อยละ 20 ของการบริโภคโลก อิหร่านอาจใช้กลุ่มตัวแทนของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม IRGC ในอิรัก เยเมน และซีเรีย หรือกลุ่มฮูตีในเยเมนที่ขู่โจมตีเรือสหรัฐฯ ในทะเลแดง อาราคชีกล่าวว่าสหรัฐฯ ทำลายการทูต และอิหร่านสงวนสิทธิ์ปกป้องชาติ บางฝ่ายเสนอถอนตัวจากสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (NPT)
ผู้นำสูงสุด อยาตอลลาห์ อาลี คาเมเนอี ออกแถลงการณ์การลงโทษอิสราเอลจะดำเนินต่อไป โดยไม่เอ่ยถึงสหรัฐฯ หรือทรัมป์โดยตรง

ขู่ปิด "ฮอร์มุซ" วิกฤตน้ำมันกระทบโลก
ความขัดแย้งทำให้ราคาน้ำมันล่วงหน้าพุ่งร้อยละ 10 สร้างความกังวลต่อเศรษฐกิจโลก จีน ผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่จากอิหร่าน เรียกร้องให้ลดความตึงเครียด หวั่นกระทบการพัฒนาโลก ช่องแคบฮอร์มุซ เส้นทางน้ำมันสำคัญ เสี่ยงถูกปิด กระทบการขนส่งน้ำมันร้อยละ 20 ของโลก ญี่ปุ่น ซึ่งพึ่งน้ำมันจากตะวันออกกลางร้อยละ 75 ผ่านช่องแคบนี้ ประเมินสถานการณ์อย่างระมัดระวัง นายกฯ ชิเงรุ อิชิบะ เรียกร้องหยุดนิวเคลียร์อิหร่านและลดความขัดแย้ง เลขาธิการคณะรัฐมนตรี โยชิมาสะ ฮายาชิ ชื่นชมสหรัฐฯ ที่มุ่งป้องกันนิวเคลียร์ แต่หวังให้สถานการณ์คลี่คลาย หากช่องแคบปิด ญี่ปุ่นจะเผชิญวิกฤตพลังงานรุนแรง
ตุรกี ซึ่งนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน เตือนว่าราคาน้ำมันที่พุ่งอาจซ้ำเติมเงินเฟ้อและเศรษฐกิจ ปธน.เรเซป ตายยิป เออร์โดกัน กล่าวว่าอิหร่านมีสิทธิ์ป้องกันตัว และการโจมตีของอิสราเอลอาจจุดชนวนการแข่งขันด้านอาวุธในภูมิภาค
นานาชาติเรียกร้องการทูตนำหน้าสงคราม
สเปนโดยรัฐมนตรีต่างประเทศ โฆเซ มานูเอล อัลบาเรส เรียกร้องให้ EU ระงับข้อตกลงความร่วมมือกับอิสราเอล ซึ่งครอบคลุมการค้าและวิทยาศาสตร์ และห้ามส่งออกอาวุธ ระบุว่า ยุโรปต้องใจกล้าและให้การทูตนำหน้าสงคราม อัลบาเรสเชื่อมโยงความขัดแย้งจากกาซา เลบานอน ซีเรีย ถึงอิหร่าน
รัสเซียประณามสหรัฐฯ ว่าไร้ความรับผิดชอบและละเมิดกฎหมายโลก อิหร่านและรัสเซียลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนเมื่อ ม.ค.2568 และหารือในมอสโกถึงภัยคุกคามร่วม โดย ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน, นายกฯ อินเดีย นเรนทรา โมดี แสดงความกังวลต่อการยกระดับความขัดแย้ง เรียกร้องให้ลดความตึงเครียดผ่านการเจรจา

ทางด้านสหประชาชาติ (UNSC) จัดประชุมฉุกเฉินเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. เพื่อหารือการโจมตีของสหรัฐฯ ต่ออิหร่าน ตัวแทนอิหร่าน อามีร์ ซาอิด อิราวานี เรียกร้องให้ UNSC ดำเนินการ ขณะที่ตัวแทนอิสราเอล แดนนี ดานอน ระบุว่าจะโจมตีต่อจนกว่านิวเคลียร์อิหร่านจะถูกกำจัด ส่วนสหรัฐฯ ออกคำเตือนทั่วโลกให้พลเมืองในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือระวังภัย ออสเตรเลียและสาธารณรัฐเช็กปิดสถานทูตในเตหะรานชั่วคราวจากความขัดแย้ง
อ่านข่าวอื่น :