วันนี้ (6 มิ.ย.2568) CNN รายงาน รัสเซียเปิดฉากโจมตีทางอากาศระลอกใหม่ต่อกรุงเคียฟและหลายพื้นที่ โดยทางการเคียฟรายงานว่ามีการยิงขีปนาวุธและส่งโดรนโจมตีเป้าหมายหลายแห่ง ส่งผลให้เกิดไฟไหม้และสร้างความเสียหายในหลายเขตของเมืองหลวง
Tymur Tkachenko หัวหน้าฝ่ายบริหารการทหารของกรุงเคียฟกล่าวหาว่า รัสเซียจงใจโจมตีพื้นที่ที่พักอาศัยด้วยโดรน โดยระบุว่าอาคารสูงในเขต Solomyanskyi ของเคียฟได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ยังมีรายงานไฟไหม้ในอาคารต่าง ๆ ทั่วกรุงเคียฟ จากการตกของเศษซากและการโจมตีของโดรน
Vitali Klitschko นายกเทศมนตรีของกรุงเคียฟ รายงานเพิ่มเติมว่าเกิดไฟไหม้ในเขต Holosiivskyi และ Darnytskyi ของเมืองหลวง และระบุว่า มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 3 คน จากเหตุการณ์นี้ ระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนถูกเปิดใช้งานในพื้นที่ Obolon ของเคียฟ นายกเทศมนตรี Klitschko ได้โพสต์ข้อความบน Telegram เมื่อเช้าตรู่ของวันนี้ เตือนประชาชนว่า
การโจมตีเมืองหลวงยังคงดำเนินต่อไป โปรดอยู่ในที่หลบภัย!
Reuters เผยแพร่ภาพถ่าย แสดงให้เห็นชาวเคียฟจำนวนหนึ่ง รวมถึงผู้ปกครองที่มาพร้อมกับเด็กนั่งในรถเข็น กำลังหาที่หลบภัยในลานจอดรถใต้ดิน
การโจมตีของรัสเซียในครั้งนี้ เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่หน่วยงานความมั่นคงของยูเครนได้เปิดฉาก ปฏิบัติการโดรนขนาดใหญ่ที่ "กล้าหาญ" และลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
การโจมตีดังกล่าวพุ่งเป้าไปที่สนามบินหลายแห่งและทำลายเครื่องบินทางทหารหลายลำ รวมถึงเครื่องบินทิ้งระเบิดหนักที่มีขีดความสามารถในการติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินที่มีมูลค่าสูงของรัสเซีย นอกจากนี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (3 มิ.ย.) ยูเครนยังได้โจมตีสะพานเคิร์ช ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อโดยตรงเพียงจุดเดียวระหว่างรัสเซียและคาบสมุทรไครเมียที่ถูกผนวกไป โดยใช้ระเบิดน้ำหนัก 1,100 กิโลกรัมที่ถูกวางไว้ใต้น้ำ

การโจมตีของยูเครนดังกล่าว สร้างความประหลาดใจให้กับมอสโกเป็นอย่างมาก และ กระตุ้นให้เกิดเสียงเรียกร้องให้มีการตอบโต้ครั้งใหญ่ จากกลุ่มชาตินิยมและกลุ่มสนับสนุนเครมลินภายในรัสเซีย กองทัพเครื่องบินทิ้งระเบิดหนักของรัสเซียมีบทบาทสำคัญในการทิ้งระเบิดเมืองต่าง ๆ ของยูเครน นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเต็มรูปแบบ โดยสามารถยิงขีปนาวุธร่อนที่ยากต่อการสกัดกั้นได้จากระยะปลอดภัยจากแบตเตอรี่ต่อต้านอากาศยานของเคียฟ
ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้แจ้งกับ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ในการสนทนาทางโทรศัพท์ล่าสุดเมื่อวันพุธว่า (4 มิ.ย.) รัสเซียจะตอบโต้การโจมตีเหล่านั้น ด้าน สส. ยูเครน Oleksandr Merezhko กล่าวกับ CNN ว่า เมื่อปูตินกล่าวว่าจะแก้แค้นหรือโจมตียูเครนครั้งใหม่ เรารู้ดีว่ามันหมายถึงพลเรือน พร้อมแสดงความผิดหวังที่ ปธน.ทรัมป์ ไม่ได้เรียกร้องให้ปูตินหยุดยั้ง
รัสเซียได้ขยายการผลิตโดรนและขีปนาวุธในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้สามารถโจมตีครั้งใหญ่โดยใช้ขีปนาวุธหลายร้อยลูกพร้อมกัน กลยุทธ์ของรัสเซียคือ การพยายามเอาชนะระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนด้วยโดรนราคาถูกจำนวนมาก เพื่อให้การโจมตีด้วยขีปนาวุธพร้อมกันประสบความสำเร็จ ยูเครนยังคงต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ ในการป้องกันตัวเองจากการโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธในยามค่ำคืน
อย่างไรก็ตาม รายงานจาก CNN ระบุว่า รัฐบาลทรัมป์ได้ส่งสัญญาณว่าคาดหวังให้พันธมิตรยุโรปเข้ามาแบกรับภาระที่หนักกว่านี้ในการปกป้องยูเครน และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้แจ้งต่อสภาคองเกรสว่า จะมีการเปลี่ยนเส้นทางเทคโนโลยีต่อต้านโดรนที่สำคัญซึ่งเคยจัดสรรไว้ให้ยูเครน ไปยังหน่วยงานกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เพิ่มความกังวลให้กับยูเครนเป็นอย่างยิ่ง
อ่านข่าวอื่น :
"ทรัมป์-มัสก์" แลกหมัดผ่านโซเชียล ปะทะปมร่างกฎหมายลดภาษี
"ภูมิธรรม" เผยหารือ "เตีย เซยฮา" เสนอกัมพูชาถอนทหารจากจุดปะทะ 200 เมตร