ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ทรัมป์เดือด! ขู่ลงโทษรัสเซียหนัก หลังปูตินไม่ส่งข้อตกลงสันติภาพ

ต่างประเทศ
19:21
204
ทรัมป์เดือด! ขู่ลงโทษรัสเซียหนัก หลังปูตินไม่ส่งข้อตกลงสันติภาพ
อ่านให้ฟัง
07:38อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ทรัมป์พร้อมลงดาบคว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่ หลังปูตินไม่ส่งข้อตกลงหยุดยิงยูเครนตามสัญญา ท่ามกลางสงครามที่เดือดขึ้นและแรงกดดันจากสหรัฐ-ยุโรปให้เจรจาสันติภาพ แต่รัสเซียยังเงียบ โลกจับตาทรัมป์จะเดินหมากต่อไปอย่างไร

วันนี้ (28 พ.ค.2568) สถานการณ์ระหว่าง สหรัฐฯ และ รัสเซีย ร้อนระอุยิ่งกว่าที่เคย เมื่อ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ขู่จะคว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่ หลังจาก ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ไม่ส่งเอกสาร "ข้อตกลงสันติภาพ" ตามที่สัญญาไว้ในการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2568

เอกสารนี้คาดว่าจะระบุเงื่อนไขของรัสเซียเพื่อหยุดยิงในสงครามยูเครนที่ยืดเยื้อมานาน แต่เกือบ 10 วันผ่านไป สหรัฐฯ และยูเครนยังไม่ได้รับอะไรเลย ความล่าช้านี้ยิ่งจุดไฟให้ทรัมป์โกรธจัด โดยเฉพาะเมื่อรัสเซียโจมตียูเครนด้วยขีปนาวุธและโดรนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ทรัมป์ถึงกับระบุในที่สาธารณะว่า

ปูตินกำลังฆ่าคนเยอะเกินไป เกิดอะไรขึ้นกับเขาเนี่ย ?

ย้อนกลับไปในการโทรคุยเมื่อสัปดาห์ก่อน ทรัมป์ย้ำกับปูตินว่ารัสเซียและยูเครนต้องเจรจาหยุดยิงโดยตรง โดยสหรัฐฯ และยุโรปพร้อมเป็นตัวกลางเมื่อจำเป็น ปูตินรับปากว่าจะส่ง "ข้อตกลงสันติภาพ" ซึ่งจะระบุหลักการ กรอบเวลา และเงื่อนไขสำหรับการหยุดยิง ภายในไม่กี่วัน แต่จนถึงวันนี้ สหรัฐฯ ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของเอกสาร

มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ออกมาแก้ตัวว่ากำลังร่างเอกสารอยู่ และจะส่งให้ยูเครนเมื่อพร้อม แต่คำพูดนี้ไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ปธน.ยูเครน กล่าวหาว่าปูติน "แค่เล่นเกมการทูต" และไม่ได้จริงใจกับการเจรจา

ความขัดแย้งไม่ได้หยุดแค่ระดับผู้นำ แต่ลุกลามไปถึงโซเชียลมีเดีย เมื่อวันที่ 27 พ.ค.2568 บนแพลตฟอร์ม X ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงรัสเซีย โพสต์เตือนว่าการขู่คว่ำบาตรของทรัมป์อาจนำไปสู่ "สงครามโลกครั้งที่ 3" ซึ่งเป็นการยกระดับวาทกรรมให้ตึงเครียดยิ่งขึ้น คีธ เคลลอก ทูตพิเศษของทรัมป์ด้านยูเครนและรัสเซีย ตอบโต้ทันควันผ่าน X ว่าเมดเวเดฟพูดเกินจริง และรัสเซียต้องส่งข้อตกลงตามที่สัญญาไว้ พร้อมเรียกร้องให้หยุดยิงทันที

ด้านทรัมป์เองก็ไม่ยอมเงียบ โพสต์ใน Truth Social ว่าถ้าไม่ใช่เพราะเขา รัสเซียคงเจอเรื่องแย่ ๆ ไปนานแล้ว และกล่าวหาปูตินว่ากำลังเล่นกับไฟ ซึ่งแสดงถึงความโมโหที่ถึงขีดสุด

ในแง่การเมืองภายในสหรัฐฯ แรงกดดันให้ทรัมป์ลงโทษรัสเซียเพิ่มมากขึ้น วุฒิสมาชิกทั้งจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน เช่น ริชาร์ด บลูเมนทัล และ ลินด์ซีย์ แกรแฮม เสนอร่างกฎหมายคว่ำบาตรครั้งใหญ่ โดยมีมาตรการเด็ด เช่น เก็บภาษี ร้อยละ 500 จากประเทศที่ซื้อพลังงานรัสเซีย ซึ่งจะกระทบทั้งคู่ศัตรูอย่างจีนและพันธมิตรอย่างอินเดีย ร่างนี้ได้รับการสนับสนุนจากวุฒิสมาชิกกว่า 80 คน แสดงถึงความเป็นเอกภาพในสภา บลูเมนทัลย้ำว่าเยอรมนี ฝรั่งเศส และอังกฤษให้การสนับสนุนเต็มที่ และสหรัฐฯ ได้หารือกับพันธมิตรอย่างละเอียดเพื่อลดผลกระทบจากมาตรการนี้

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังลังเลที่จะลงมือคว่ำบาตรทันที เขากังวลว่าการลงโทษตอนนี้อาจทำให้รัสเซียถอนตัวจากการเจรจา ซึ่งจะยิ่งทำให้สงครามยืดเยื้อ เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2568 ทรัมป์บอกผู้นำยุโรปทางโทรศัพท์ว่า เขาจะยังไม่เข้าร่วมการคว่ำบาตรใหม่ แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเคยส่งสัญญาณว่าจะจัดการปูตินให้เด็ดขาด มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เสริมว่า ถ้ารัสเซียและยูเครนส่งข้อเสนอมา สหรัฐฯ พร้อมช่วยเจรจา แต่ตอนนี้รัสเซียยังไม่ขยับ ทำให้ทรัมป์อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องชั่งน้ำหนักระหว่างการลงโทษและการรอคอย

ยุโรปเองก็เพิ่มแรงกดดัน แอลมานูเอล มาครง ปธน.ฝรั่งเศส ออกมาวิจารณ์ว่าปูติน "โกหก" เรื่องสันติภาพ และหวังว่าทรัมป์จะเปลี่ยนใจหันมาลงมือเด็ดขาด มาครงชี้ว่าการโจมตีล่าสุดของรัสเซียแสดงให้เห็นว่าปูตินไม่ได้จริงจังกับการเจรจา ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ก็มีแผนคว่ำบาตรที่รออยู่ เช่น การลงโทษภาคการเงินรัสเซีย หรือคว่ำบาตรระดับที่ 2 ต่อผู้ซื้อพลังงานรัสเซีย แต่ทรัมป์ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกมาตรการไหน

สถานการณ์นี้ซับซ้อนยิ่งขึ้นเมื่อพิจารณาการเจรจาครั้งล่าสุดระหว่างยูเครนและรัสเซียในตุรกีเมื่อต้นเดือน พ.ค.2568 ซึ่งเป็นการคุยโดยตรงครั้งแรกในรอบหลายเดือน หลังการเจรจา คาดว่ารัสเซียจะส่งข้อตกลงให้ยูเครนและสหรัฐฯ แต่การที่ปูตินไม่ทำตามสัญญา ทำให้หลายฝ่ายสงสัยว่าเขากำลังซื้อเวลาเพื่อกดดันในสนามรบหรือไม่ เซเลนสกีเองก็ออกมาเตือนว่าการล่าช้าของรัสเซียเป็นกลยุทธ์ที่อันตราย

นักวิเคราะห์บอกกับ CNN ว่าการตัดสินใจของทรัมป์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะกำหนดทิศทางของสงครามยูเครนและความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-รัสเซีย หากทรัมป์เลือกคว่ำบาตร เศรษฐกิจรัสเซียอาจเผชิญแรงกดดันมหาศาล โดยเฉพาะเมื่อคว่ำบาตรพลังงานกระทบรายได้หลักของประเทศ แต่ก็เสี่ยงทำให้รัสเซียแข็งกร้าวขึ้นและปฏิเสธการเจรจา ในทางกลับกัน หากทรัมป์รอต่อไป สหรัฐฯ และยุโรปอาจถูกมองว่าอ่อนแอในการรับมือปูติน ซึ่งจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในเวทีโลก

ทรัมป์เคยมีประวัติถอยจากคำขู่คว่ำบาตรรัสเซียมาแล้วในอดีต เพราะเห็นว่าการเจรจามีค่ามากกว่าการลงโทษ แต่ครั้งนี้สถานการณ์ต่างออกไป การโจมตีล่าสุดของรัสเซียและแรงกดดันจากทั้งในและนอกประเทศอาจบีบให้ทรัมป์ต้องลงมือ โลกกำลังจับตาว่าทรัมป์จะเลือกทางไหน ระหว่าง เดินหน้าลงโทษปูติน หรืออดทนรอข้อตกลงที่อาจไม่มีวันมา ?

อ่านข่าวอื่น :

"ทักษิณ" ขู่จัดการว้าแดง ผู้เชี่ยวชาญกังวลกระทบสัมพันธ์เมียนมา

"แพทองธาร" คุย "ฮุน มาเนต" เคลียร์เหตุปะทะชายแดนไทย​-​กัมพูชา