วันนี้ (2 มิ.ย.2568) กลุ่มควันดำลอยขึ้นเหนือฐานทัพในเขตไซบีเรียของรัสเซียหลังจากยูเครนได้เปิดปฏิบัติการใยแมงมุมโจมตีรัสเซีย หน่วยงานความมั่นคงยูเครน หรือ SBU ใช้โดรน 117 ลำ ในการปูพรมโจมตีเครื่องบินรบของรัสเซียจนเสียหายหนัก ก่อนที่รัสเซียจะใช้โดรน 472 ลำ และขีปนาวุธ อีก 7 ลูก ในการโจมตีหลายพื้นที่ของยูเครน ตลอดทั้งคืน ที่ผ่านมา
ขณะที่อีกภาพหนึ่งถูกถ่ายมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ แสดงให้เห็นนาทีเครื่องบินถูกโจมตีจนเกิดไฟลุกไหม้รุนแรง ปฏิบัติการยูเครนสร้างความเสียหายให้เครื่องบินรบ 40 ลำและร้อยละ 34 เครื่องยิงขีปนาวุธร่อน เชิงยุทธศาสตร์รัสเซีย
แหล่งข่าวจาก SBU ชี้ว่า การเตรียมการใช้เวลา 1 ปีครึ่ง อาศัยการลักลอบขนโดรน ที่ซุกซ่อนไว้ ในลังขนาดใหญ่ ส่งไปประจำตามจุดต่าง ๆ ใกล้กับฐานทัพพื้นที่เป้าหมาย และใช้การควบคุมจากระยะไกลเพื่อเปิดส่วนหลังคาโกดัง สั่งการให้โดรนบินออกไปโจมตีตามเวลาที่กำหนดเอาไว้ทำให้ยูเครนสามารถโจมตีฐานทัพห่างออกไป 4,000 กม.
การโจมตีในครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 1 วันก่อนการเจรจารอบ 2 ซึ่งจะจัดขึ้นที่พระราชวัง Çırağan นครอิสตันบูลของตุรกี หลังจากการเจรจารอบแรกวันที่ 16 พ.ค. ยังคงไร้ผลนอกเหนือจากการบรรลุข้อตกลงแลกเปลี่ยนตัวเชลยศึก
อุปสรรคสำคัญในการเจรจาสันตภาพคือจุดยืนแตกต่างกันทำให้การเจรจาแต่ละรอบไม่เคยประสบผลสำเร็จสักครั้ง รัสเซียได้ยื่นเงื่อนไขให้ยูเครนล้มเลิกแผนการเข้าร่วมนาโต้และถอนทหารออกจาก 4 ดินแดน ภายใต้การยึดครอง ขณะที่ยูเครนย้ำจุดยืนไม่ลดขีดความสามารถทางการทหารและไม่ยอมรับอธิปไตยรัสเซียเหนือดินแดนทั้ง 4 แคว้น นอกจากนี้เรียกร้องให้รัสเซียจ่ายค่าชดเชยความเสียหาย และการเจรจาดินแดนจะยึดตามพื้นที่แนวหน้าในปัจจุบัน
ปัจจุบันรัสเซียควบคุมดินแดนประมาณ 1 ใน 5 ของยูเครน หรือคิดเป็น 113,100 ตร.กม. ขณะเดียวกันการประเมินข้อมูลของหน่วยข่าวกรองยูเครน ชี้ว่า รัสเซียระดมกำลังพลกว่า 50,000 นายประชิดยูเครน ท่ามกลางการจับตามองถึงความพยายามของรัสเซีย ในการเปิดปฏิบัติการโจมตียูเครนครั้งใหญ่ ในฤดูร้อนของปีนี้
เป้าหมายของรัสเซียคือการยึดแคว้นโดเนตสก์ทั้งหมด หลังจากความพยายามของรัสเซียล้มเหลวช่วงต้นสงคราม อีกด้านหนึ่ง คีธ เคลล็อก ผู้แทนพิเศษสหรัฐฯ ด้านยูเครนส่งสัญญาณให้ทุกฝ่ายถอยคนละก้าวจากสงครามตัวแทน
แหล่งข่าวใกล้ชิดรัฐบาลรัสเซีย 3 คนเปิดเผยผ่านสำนักข่าว Reuters ว่าผู้นำรัสเซียตั้งเงื่อนไขให้นาโตยุติการขยายตัวมาทางตะวันออก โดยผู้นำชาติตะวันตกจะต้องลงนามให้คำมั่นอย่างเป็นลายลักษ์อักษรไม่ขยายอิทธิพลครอบงำกลุ่มประเทศ อดีตบริวาร สหภาพโซเวียต ยูเครนต้องมีสถานะเป็นกลางและรับรองสิทธิให้ผู้ใช้ภาษารัสเซีย ในขณะที่ชาติตะวันตก จะต้องยกเลิก มาตรการคว่ำบาตร บางรายการ
การเปิดเจรจาสันติภาพทางตรงของคู่ขัดแย้งเป็นสิ่งที่ดี
แต่เงื่อนไขที่แตกต่างกันทำให้ความขัดแย้งยากจะยุติลง
อ่านข่าวอื่น :
บรรทัดทองสู้วิกฤต หวัง Pride Month 2025 ฟื้นยอดนักท่องเที่ยว
"ภูมิธรรม" ยันรัฐบาล-กองทัพเป็นเอกภาพ ชี้ปิดด่านส่งผลกระทบ