ความคืบหน้าคดีครอบครัว 4 คน หายตัว โดยลูกสาวคนโต น.ส.หิรัญญา บุญชู เป็นผู้ที่เข้าแจ้งความว่า พ่อ แม่ และน้องชาย-น้องสาว รวม 4 คน หายตัวไป ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. โดยหายจากบ้านพักที่ อ.ทุ่งเสลื่ยม จ.สุโขทัย พร้อมรถโตโยต้าสีเทา ทะเบียน บพ 3053 สุโขทัย ซึ่งต่อมาพบเต็นท์รถมือ 2 ไลฟ์ขายรถยนต์คันดังกล่าวที่ อ.เมืองอุดรธานี
ครอบครัวนี้มีสมาชิก 5 คน ได้แก่ นายนิรุตน์ พ่อ อายุ 41 ปี, น.ส.นฤมล แม่ อายุ 41 ปี, ลูกชาย อายุ 12 ปี ลูกสาว อายุ 7 ปี และลูกสาวคนโต
ตามรอย "รถกระบะ" เปลี่ยนมือใน 4 วัน
ระหว่างการสืบหาครอบครัวนี้ พบร่องรอยรถยนต์กระบะที่ขับออกจากบ้านถูกขายโดยพบข้อมูลว่าถูกขายต่อถึง 4 มือ ในระยะเวลา 4 วัน โดย น.ส.นฤมล ได้ขายรถกระบะคันที่ขับออกจากบ้านโดยขายให้กับ พ่อค้ารถยนต์มือ 2 คนแรก ซึ่งได้มารับรถที่สถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก ในวันที่ 7 เม.ย.พบมีการโอนเงินให้ บ.ไฟแนนซ์ จำนวน 374,230 บาท ได้กำไร 10,770 บาท
หลังจากนั้นมีรถโตโยต้า รุ่นอัลติส ของ นายนิรุตน์ ขับเข้ามารับโดยพ่อค้ารถยนต์มือ 2 คนแรก ระบุว่า น.ส.นฤมล ได้บอกว่า “ขายรถเพราะไม่อยากมีภาระเพิ่ม ตั้งแต่โควิด-19 ขาดรายได้ ไม่เพียงพอ”
พ่อค้าคนดังกล่าว มีเต็นท์รถยนต์มือ 2 ใน จ.สมุทรปราการ เล่าว่า ขับรถเข้ากรุงเทพฯ ผ่าน จ.พิจิตร และมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด
ต่อมารถยนต์กระบะคันนี้ได้ถูกขายต่อให้พ่อค้ารถยนต์มือ 2 คนที่ 2 โดยชื่อ เต็นท์รถโชคทวี เจริญยนต์กรุ๊ป จ.เลย โดยพ่อค้าตกลงซื้อรถ ต่อจากพ่อค้ารถยนต์มือ 2 คนแรก และให้ลูกน้องไปรับรถที่จุดจอดรถใน จ.ลพบุรี ในวันที่ 7 เม.ย.
กระทั่งรถกระบะถูกขายต่อให้กับพ่อค้าคนที่ 3 บริษัท ประเสริฐผลยูสต์คาร์ สาขาอุดรธานี เต็นท์รถยนต์มือ 2 นี้ได้รับรถกระบะไว้ในวันที่ 9 เม.ย. และไลฟ์ขายรถในวันที่ 10 เม.ย. (ตามที่ญาติผู้สูญหายได้เห็นรถกระบะคันนี้ในไลฟ์)
ตร.เชื่อไม่มีเหตุประทุษร้ายก่อนนำรถไปขายต่อ
พ.ต.อ.สายัณห์ จันทร์แจ่มกระจ่าง ผกก.สภ.บ้านไร่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ระบุว่า จากการตรวจสอบของตำรวจคาดว่า คดีนี้ไม่น่าใช่การประทุษร้ายเพื่อนำรถไปขายเพราะพบหลักฐานว่า น.ส.นฤมล ผู้เป็นแม่ นำรถไปขายอย่างชัดเจน และรถคันนี้ถูกขายต่อ 4 มือ กระทั่งไปขายหน้าเต็นท์รถยนต์มือ 2 ที่ จ.อุดรธานี
นอกจากนี้ ยังพบว่า น.ส.นฤมล และนายนิรุตน์ ได้ระดมทุนจากชาวบ้านเพื่อนำไปลงทุนจึงอาจจะไม่อยากพบเจ้าหนี้จึงไม่คิดว่าสาเหตุที่หายตัวเป็นการประทุษร้าย
นายวัชระ เกิดทอง ผู้ใหญ่บ้าน (บ้านเกิดนายนิรุตน์) ระบุว่า เดิมนายนิรุตน์และครอบครัวอยู่ในหมู่บ้าน แต่ย้ายไปอยู่ อ.ทุ่งเสลื่ยม เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา นายนิรุตน์ มีอาชีพทำฟาร์มหมู แต่ น.ส.นฤมล มีธุรกิจส่วนตัว ทำบัญชี และอาจทำเกี่ยวกับเงินกู้ด้วย
ขณะที่ นายสอบ บุญชู พ่อนายนิรุตน์ ระบุว่า ปกติครอบครัวของ นายนิรุตน์ และ น.ส.นฤมล จะพากันไปเที่ยวตามปกติ ครั้งนี้หายตัวไปโดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงอาชีพของ น.ส.นฤมล นายสอบระบุว่า น่าจะมีอาชีพเกี่ยวกับการทำบัญชีและทำธุรกิจอยู่ใน อ.ทุ่งเสลื่ยม
จนถึงขณะนี้ ตำรวจยืนยันว่า ยังไม่ได้ข้อมูลจากครอบครัวว่าติดต่อกับ นายนิรุตน์ หรือ น.ส.นฤมล ได้แล้ว โดยได้สอบถามไปยังลูกสาวคนโตเมื่อคืนนี้ ขณะที่มีรายงานว่า ญาติติดต่อสมาชิกครอบครัวบางคนได้แล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด